กรุงเทพฯ 15 ก.ค.-“ศักดิ์สยาม” เผยความคืบหน้า ระบบ M-Flow ล่าสุดการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ บน M-Flow Gantry ทั้ง 4 ด่าน คือ ด่านทับช้าง 1, 2 และด่านธัญบุรี 1, 2 รวมถึงการเชื่อมต่อข้อมูลกับทะเบียนรถยนต์ ของกรมการขนส่งทางบก และทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง และทดสอบระบบลงทะเบียนใช้บริการ ระหว่างวันที่ 24 – 30 กรกฎาคมนี้
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลัง เป็นประธานการประชุม ติดตามและเร่งรัดการพัฒนาและการเปิดให้บริการ ระบบ M-Flow ของกรมทางหลวงและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคมนายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อติดตามการดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง (ทล.) ได้ดำเนินการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 เพื่อแก้ไขปัญหารถติดหน้าด่าน โดยวางระบบให้สามารถบูรณาการกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ในการพัฒนา M-Flow ให้เป็นรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) ซึ่งเป็นระบบเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติในรูปแบบการอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ ร่วมกับระบบการตรวจจับยานพาหนะอัตโนมัติ (Automatic Vehicle Identification: AVI) โดยผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ ที่จะมีการติดตั้งโครงเสาแขวนสูงเหนือศีรษะ (Overhead Gantry)พร้อมอุปกรณ์ระบบตรวจจับยานพาหนะอัตโนมัติ (AVI) ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ (Automated License Plate Recognition : ALPR) โดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ขณะนี้การติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ บน M-Flow Gantry ทั้ง 4 ด่าน (ด่านทับช้าง 1, 2และด่านธัญบุรี 1, 2) การเชื่อมต่อข้อมูล กับทะเบียนรถยนต์ของกรมการขนส่งทางบกและทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครองแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างการปรับปรุงกายภาพบริเวณช่องทาง การเชื่อมต่อระบบ M-Flow Back Office นอกจากนี้ ทล. จะได้มีการกำหนดกลยุทธ์ แนวทาง และแผนประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับระบบ M-Flow ภายใต้ภารกิจ “สร้างเอกลักษณ์ความเป็น M-Flow” “สร้างประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้าผู้ใช้งาน M-Flow” และ “สร้างความตระหนักรู้และจดจำ M-Flow”โดยจะทดสอบระบบลงทะเบียนการใช้บริการระบบ M-Flow ระหว่างวันที่ 24 – 30 กรกฎาคม 2564 จากนั้นจะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้บริการลงทะเบียนในช่วงกลางเดือน สิงหาคมนี้ ก่อนดำเนินการทดสอบเสมือนจริงในเดือน กันยายน 2564โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือน ตุลาคม 2564
สำหรับการพัฒนาระบบ M-Flow ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย ระยะที่ 1 บริเวณทางพิเศษฉลองรัช จำนวน 3 ด่าน (จตุโชติ ,สุขาภิบาล 5-1 และสุขาภิบาล 5-2 ) ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวน การคัดเลือกผู้รับจ้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในต้นปี 2565 และระยะที่ 2 บริเวณทางพิเศษฉลองรัช บูรพาวิถี และกาญจนาภิเษก จำนวน 60 ด่าน ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดขอบเขตงาน (TOR) คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในต้นปี 2566
โดยรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้ ทล. พิจารณาเพิ่มเติมช่องทางการลงทะเบียนระบบ M-Flow ให้มากขึ้น เช่น Modern trade สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ชุมชน เป็นต้น วางระบบติดตามและประเมินผลระบบ M-Flow รวมทั้งการบริหารจัดการจราจรเพื่อเป็นฐานข้อมูลในการปรับปรุงระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ให้สำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้บริการ และ เร่งรัดประชาสัมพันธ์การเปิดลงทะเบียนและเปิดใช้ระบบ M-Flow เพื่อสร้างการรับรู้ และความเข้าใจให้กับกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้บริการอย่างชัดเจน รวมทั้งจัดทำโฆษณา/สื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจในการใช้ระบบด้วย
ให้ ทล. ร่วมกับ กทพ. ประสานงานและบูรณาการกันอย่างใกล้ชิด เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการดำเนินงานของระบบ M-Flow และประชาสัมพันธ์การใช้งานระบบดังกล่าวร่วมกัน ให้ ทล. และ กทพ. พิจารณาเกี่ยวกับการตีเส้นสีเพื่อแบ่งระหว่างช่องM-Flow กับ EasyPass/ M Pass ให้เป็นไปในลักษณะเดียวกันรวมถึงการติดตั้ง Barrier / Guidepost เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าใช้ช่องทาง M-Flow ได้อย่างถูกต้อง และเพื่อไม่ให้เกิดการตัดกระแสการจราจรบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง รวมทั้ง ให้ กทพ. พิจารณาการเปลี่ยนถ่ายจากระบบ EMV ไปเป็นระบบ M-Flow ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงานและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด.-สำนักข่าวไทย