คมนาคมสั่งเตรียมพร้อมเปิดให้บริการสายสีแดงเสมือนจริง

กรุงเทพฯ 14 ก.ค.-รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม สั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมทุกด้าน รองรับการเปิดให้บริการเสมือนจริงรถไฟชานเมืองสายสีแดง  2 สิงหาคมนี้


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ ครั้งที่ 4/2564 เพื่อติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานการเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์  รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงบประมาณ เข้าร่วม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการพิจารณาชื่อที่จะขอพระราชทานนามสำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน (บางซื่อ – ตลิ่งชัน) และโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ- รังสิต) ก่อนที่จะเสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำความกราบบังคมทูลต่อไป และได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 2 สิงหาคม 2564  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเสมือนจริงเพื่อทดลองการเดินรถให้ประชาชนทั่วไปใช้บริการ โดยมีการเชื่อมต่อการเดินทางกับการขนส่งประเภทต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ ก่อนที่จะมีการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งจากการประชุม คณะกรรมการฯ ได้เร่งรัดดำเนินการในส่วนต่าง ๆ เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการ ดังนี้


โดยการเตรียมความพร้อมด้านการเดินรถและการเชื่อมต่อการให้บริการระบบขนส่ง ได้มีการปรับปรุง แผนการเดินรถไฟ เพื่อปรับลดจำนวนรถไฟเข้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เหลือ 22 ขบวน เริ่มปรับตารางเดินรถจำนวน 8 ขบวน สำหรับเส้นทางสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ แบ่งเป็น ช่วงเช้า 4 ขบวน และช่วงเย็น 4 ขบวน ในวันที่ 2 สิงหาคม 2564 เพื่อให้ผู้โดยสารได้มีการปรับพฤติกรรมในการเดินทาง และในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 จะใช้ตารางเดินรถเช่นเดียวกับเดือนสิงหาคม แต่จะเริ่มวิ่งบนโครงสร้างยกระดับ สำหรับรถไฟเส้นทางสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ

การปรับเส้นทางรถโดยสารประจำทางเชื่อมต่อการเดินทางเพื่อให้มีรถโดยสารประจำทางหมวด 1 กรุงเทพมหานคร และจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง และรถโดยสารประจำทางหมวด 4 รองรับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดงทุกสถานี และปรับปรุงป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง เพื่อให้มีความเหมาะสมในการเชื่อมต่อการเดินทาง นอกจากนี้ ยังได้มีการติดตั้งป้ายแนะนำสถานีเพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสถานีแก่ประชาชน จำนวน  5 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ สถานีตลิ่งชัน สถานีบางบำหรุ สถานีบางซ่อน และสถานีรังสิต และดำเนินการในส่วนสถานีที่เหลือต่อไป

การดำเนินการด้านสถานีและการเชื่อมต่อสถานีเกตเวย์ได้มีการปรับปรุงพื้นที่และสถานีเพื่อเตรียมความพร้อมให้บริการ โดยในสถานีรังสิต ได้เร่งรัดการก่อสร้างถนนด้านทิศตะวันตก  ให้แล้วเสร็จตามสัญญา และดำเนินการงานปรับปรุงสถานีเชื่อมต่อผู้โดยสารสายตะวันตกในสถานีบางซ่อน สถานีบางบำหรุ และสถานีตลิ่งชันแล้วเสร็จ    ในส่วนของการจ้างบริการเพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดใช้สถานีกลางบางซื่อและสถานีรถไฟฟ้า 12 สถานี ประกอบด้วย งานทำความสะอาดและกำจัดขยะ งานรักษาความปลอดภัยและจราจร งานบริหารจัดการงานอาคารและสถานที่บริเวณรถไฟฟ้าสายสีแดง รวมถึงพื้นที่โดยรอบของโรงซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีแดงและทำความสะอาดขบวนรถไฟฟ้าสายสีแดง และงานติดตั้งระบบจัดการจราจรภายในบริเวณลานจอดรถสถานีกลางบางซื่อ และจัดเก็บค่าบริการจอดรถ อยู่ระหว่างการดำเนินการ นอกจากนี้ ในด้านการจัดสรรประโยชน์พื้นที่เชิงพาณิชย์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำประกาศเชิญชวน และแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อดำเนินการสรรหาเอกชนในการบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์และป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อและสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง 12 สถานี


การกำหนดราคาค่าโดยสารและบัตร ได้เห็นชอบในหลักการของแนวทางการจัดเก็บอัตรา    ค่าแรกเข้าในการเดินทางเชื่อมต่อของโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) โดยได้เสนอร่างข้อกำหนดการจัดเก็บอัตราค่าแรกเข้าในการเดินทางเชื่อมต่อของโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนต่อกระทรวงคมนาคม เพื่อมอบหมาย รฟท. และ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นำไปประกอบการกำหนดเงื่อนไขไม่มี ค่าแรกเข้าระบบ ในร่างสัญญาสัมปทานของโครงการรถไฟฟ้าที่จะเปิดให้บริการหรือมีการแก้ไขสัญญาสัมปทานในอนาคต เพื่อให้ผู้ใช้บริการขนส่งทางรางที่มีการเดินทางเปลี่ยนถ่ายระหว่างเส้นทางรถไฟฟ้าในโครงข่ายทั้งหมด ให้มีการจัดเก็บค่าโดยสารที่มีค่าแรกเข้าของรถไฟฟ้าที่เดินทางเข้าระบบแรกเพียงครั้งเดียว และได้เสนอแผนการดำเนินงาน เพื่อให้สามารถเปิดใช้บริการบัตรโดยสารตามมาตรฐาน EMV ได้ภายในปลายปี 2564 รวมทั้ง ระบบจัดเก็บค่าโดยสารภายใต้มาตรฐาน EMV ในปัจุบันสามารถรองรับการใช้งานในรถเมล์ ขสมก. และเรือโดยสาร MINE Smart Ferry ซึ่งสามารถรับชำระค่าโดยสารแบบไร้สัมผัส EMV Contactless ผ่านเครื่อง EDC โดยรองรับบัตรเดบิต บัตรเครดิต ทั้ง VISA และ MasterCard โดยได้มอบหมายให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เสนอต่อกระทรวงคมนาคมต่อไป

ส่วนการพัฒนาสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อให้สามารถอนุรักษ์และคงสภาพอาคารเดิมที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมไว้ เช่น อนุสรณ์ปฐมฤกษ์รถไฟหลวง สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ที่ทำการฝ่ายโดยสารฯ  (โรงแรมราชธานีเดิม) ตึกบัญชาการรถไฟแห่งประเทศไทย ตึกพัสดุ (ตึกแดง) คณะกรรมการฯ ได้ให้แนวทางการพิจารณาถึงการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ในด้านพัฒนาเชิงพาณิชย์ โดยสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามศักยภาพของพื้นที่เพื่อตอบสนองกับความต้องการและการใช้งานที่แท้จริงในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต และให้ยึดหลักการการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและพักผ่อนในระดับเมือง ด้วยการสร้างพื้นที่เมืองอย่างสร้างสรรค์ ผสานกับการสืบต่อความรู้และคุณค่าของสถานีรถไฟกรุงเทพ ตามแผนการพัฒนาย่านสถานีกรุงเทพต่อไป

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ ยังได้พิจารณาโครงการจัดทำระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่รังสิตเพื่อเป็น Feeder ให้กับรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยมีโครงการนำร่อง 3 เส้นทาง ประกอบด้วย สายสถานีรถไฟฟ้ารังสิต – ธัญญบุรีคลอง 7 สายสถานีรถไฟฟ้ารังสิต – ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และสายสถานีรถไฟฟ้ารังสิต – แยก คปอ. (เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว) ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพื่อให้เป็นทางเลือกในการเดินทางเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยการทำช่องทางรถประจำทางแบบเฉพาะ (Buslane/Busway) ซึ่งจะทำให้รถประจำทางวิ่งได้อย่างต่อเนื่องลดปัญหาการจราจรติดขัด ลดการใช้พลังงาน และลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในเขตเมือง โดยได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ศึกษาถึงผลกระทบ ข้อดี – ข้อเสีย ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ และหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเสนอคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) พิจารณาต่อไป

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯ แต่ละคณะ เตรียมความพร้อมก่อนการเปิดให้บริการเสมือนจริงในวันที่ 2 สิงหาคม 2564 โดยให้จัดทำเช็คลิสต์เพื่อตรวจสอบประเด็นความพร้อมที่ได้ดำเนินการไปทั้งหมด และยังกล่าวอีกว่า ในวันเปิดให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงเสมือนจริงนั้น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงการใช้ประโยชน์ของพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ทั้งในด้านการให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน และด้านการให้บริการระบบรถไฟฟ้า ให้มีความเหมาะสม ลดผลกระทบ ทั้งด้านการจราจรที่จะเกิดขึ้น และด้านความสะดวกของประชาชน บนหลักการให้มีผลกระทบต่อประชาชนผู้มาใช้บริการให้น้อยที่สุด และให้เน้นด้านการประชาสัมพันธ์ รวมถึงการใช้สื่อ Social Media และสื่อสาธารณะทั้งภายในและภายนอกสถานี เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และให้ประชาชนรับทราบถึงข้อมูลในทุกมิติของการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-อีสาน

กทม. 27 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. […]

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย