กรุงเทพฯ 14 ก.ค.- กฟผ. เสริมศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ เร่งส่งมอบหมวกป้องกันเชื้อ PAPR ให้ได้ตามเป้าหมายแรก 500 ใบ แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศ ทีมช่างอาสา กฟผ. ตั้งเป้าผลิตเพิ่มอีก 500 ใบ
ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกระแสข่าวที่บุคลากรทางการแพทย์เป็นลมหมดสติในชุด PPE ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องเป็นเวลานาน ดังนั้นเพื่อให้ทีมแพทย์ด่านหน้าปลอดภัยและมีความสะดวกมากขึ้น กฟผ. จึงใช้ศักยภาพและความเชี่ยวชาญของทีมช่างจิตอาสาในการผลิตหมวกป้องกันเชื้อ PAPR (Powered Air Purifying Respirator) พร้อมทั้งเร่งส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ ตัวหมวกมีน้ำหนักเบา ใช้งานได้คล่องตัว รวมทั้งประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ใช้งานต่อเนื่องสูงสุดได้ถึง 8 ชั่วโมง
สำหรับ หมวกป้องกันเชื้อ PAPR เกิดจากน้ำใจของคนไทยร่วมกันกับ กฟผ. ระดมทุนผ่านแพลตฟอร์ม ‘เทใจ’ จนได้เงินทุนครบสำหรับการผลิตหมวกตามเป้าหมายภายในเวลาอันรวดเร็ว
“ ขณะนี้ กฟผ. ผลิตหมวกป้องกันเชื้อ PAPR ประมาณ 300 ใบ ควบคู่การส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลแล้วกว่า 35 แห่งทั่วประเทศ โดยจะเร่งผลิตและส่งมอบให้ได้ตามเป้า 500 ใบ ภายในเดือน ก.ค.นี้ พร้อมทั้งเตรียมจัดหาทุนเพิ่มสำหรับการผลิตหมวกฯ ให้ได้อีก 500 ใบ เพื่อเสริมศักยภาพให้ทีมแพทย์ใช้เป็นเกราะป้องกันภัยโควิดแทนชุด PPE โดยหมวก PAPR ผลิตและทดสอบคุณภาพหลักที่ กฟผ. สำนักงานหนองจอก ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมบำรุง ผลิต ทดสอบ และบริหารอะไหล่โรงไฟฟ้าแบบครบวงจร เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในระดับสากล “ดร.จิราพร กล่าว
นางภานุ ศรีเสาวลักษ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลบ้านตาก กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิดที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ทำให้หมวกป้องกันเชื้อ PAPR มีความจำเป็นมากสำหรับใส่ป้องกันตัวขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วย โดยหลังจากทดลองใช้งานพบว่า สามารถสื่อสารระหว่างทีมแพทย์ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะหมวกมีพัดลมมอเตอร์ที่สามารถปรับระดับเสียงและควบคุมความเร็วลมได้ด้วยตัวเอง อากาศที่เข้าไปไหลเวียนได้ดี ทำให้รู้สึกไม่ร้อนและไม่อึดอัด
ด้าน พันโทหญิง รอนีย์ พรหมลา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ กล่าวว่า หมวกป้องกันเชื้อ PAPR ช่วยให้ทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวกขึ้น รวมถึงเพิ่มความมั่นใจขณะปฏิบัติงานอีกด้วย .-สำนักข่าวไทย