ศรีสะเกษ 11 ก.ค.-รมว.พาณิชย์ ปล่อยคาราวานรถโมบายพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนศรีสะเกษช่วยลดค่าครองชีพ พร้อมเตรียมปล่อย 300 คันใน 10 จังหวัดล็อกดาวน์พรุ่งนี้ (12 ก.ค.) วอนประชาชนพบสินค้าขาดแคลนแจ้งสายด่วน 1569 ได้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังปล่อยคาราวานรถ”โมบายพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ในจังหวัดศรีสะเกษช่วยลดค่าครองชีพ ซึ่งเป็นโครงการนำสินค้าราคาถูกใส่รถโมบายออกไปจำหน่ายในพื้นที่ทั่วทั้งจังหวัดศรีสะเกษ ในอำเภอชุมชนเป็นเวลา 30 วัน โดยมีรถโมบายที่จังหวัดศรีสะเกษ 15 คัน สินค้าทั้งหมด 73 รายการ ลดราคาสูงสุดร้อยละ 60 สินค้าบริโภคและอุปโภคที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เช่น 1.ข้าวหอมมะลิถุงละ 5 กิโลกรัม 135 บาท กิโลกรัมละ 27 บาท 2.น้ำมันพืชขวดละ 1 ลิตร 42 บาท 3.ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 30 ฟองราคา 90 บาท 4.ปลากระป๋อง กระป๋องละ 10 บาท และ 5.น้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 20 บาท และ6.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองละ 5 บาท นอกจากนี้ยังมีน้ำยาล้างจานจากถุงละ 20 บาทเหลือ 8 บาทเป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีสินค้า GI หรือพืชเกษตรที่จดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่มีชื่อของจังหวัดศรีสะเกษ เช่น หอม กระเทียมศรีสะเกษสำหรับหอม GI ปกติขายครึ่งกิโลกรัมละ 60 บาท เหลือครึ่งกิโลกรัมละ 30 บาท กระเทียมเหลือกิโลกรัมละ 40 บาท โดยรถจะตระเวนขายสินค้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปประมาณ 30 วัน คาดว่าจะลดค่าของชีพในช่วงประสบภัยโควิดให้ชาวศรีสะเกษได้ส่วนหนึ่ง
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการโครงการโมบายพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ทุกจังหวัดในแบบเดียวกันนี้ โดยเฉพาะ 10 จังหวัดล็อกดาวน์นั้นจะมีผลในวันพรุ่งนี้เลย ทันทีที่ทราบมติ ศบค.ทางเรามีโครงการกรณีพิเศษที่จะเพิ่มจำนวนรถใน 10 จังหวัดล็อกดาวน์ คือ 6 จังหวัดในกรุงเทพและปริมณฑล 4 จังหวัดภายแดนชายแดนใต้ รวมทั้งหมด 300 คัน และทันทีที่ทราบว่าจะมีมติ ศบค. ตนได้สั่งการตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมารวมทั้งในการประสานงานและประชุมร่วมกันกับกลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่จำเป็นต่อการบริโภคอุปโภคและชีวิตประจำวันรวมทั้งห้างสรรพสินค้ากับจุดกระจายสินค้าซุปเปอร์มาร์เก็ต และท่านปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้รายงานว่ายังไม่มีปัญหาที่สินค้าหมดจากชั้นวาง
“หากพี่น้องพบการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ให้ร้องเรียนมาที่สายด่วน 1569 จะมีเจ้าหน้าที่ประจำการทุกวัน ไม่มีวันหยุด ยกเว้นในช่วงเวลากลางคืนจะบันทึกไว้ และพาณิชย์จังหวัดจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วย ช่วยดูแลราคาสินค้าไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน หากพบหลักฐานว่าร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควร ก็จะดำเนินคดีตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย มีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ” นายจุรินทร์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย