สมาคมภัตตาคารขอเข้า “คนละครึ่ง” กระทบหนักจากล็อกดาวน์รอบใหม่

กรุงเทพฯ 9 ก.ค.-สมาคมภัตตาคารไทย ยื่นข้อเรียกร้องถึง นายกรัฐมนตรี 10 ข้อ ขอความช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่คำสั่งมาตรการป้องกันเข้มงวดสูงสุดรอบใหม่ ทั้งขอให้แพลทฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่เข้าโครงการ “คนละครึ่ง” และย้ำขอสินเชื่อพิเศษ

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือเปิดผนึกยื่นต่อนายกรัฐมนตรี เนื่องจากที่ ศบค.มีมติยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโดยจำกัดการเดินทางออกนอกบ้านของประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ปิดห้างสรรพสินค้าเปิดได้เฉพาะซุปเปอร์มาร์เก็ตมีกำหนดระยะเวลา 14 วันนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหารมีความเข้าใจในปัญหาและสถานการณ์วิกฤตครั้งนี้และพร้อมให้ความร่วมมือสกัดกั้นโควิด-19 แต่ก็มิอาจปฏิเสธได้เลยว่า มาตรการที่ออกมาล่าสุดนี้เป็นการซ้ำเติมวิกฤตด้านเศรษฐกิจแก่ผู้ประกอบการภัตตาคารและร้านอาหารมากยิ่งขึ้น จากที่เรากำลังสาหัสอย่างหนักและมีกิจการต้องปิดตัวไปแล้วจำนวนมากและกำลังจะมีทยอยปิดกิจการตามมาอีก หากครั้งนี้ไม่ได้รับการช่วยเหลือแบบเฉพาะเจาะจงมายังภาคธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร


ดังนั้นจึงขอเรียกร้อง 10 ข้อต่อนายกรัฐมนตรีให้ช่วยสั่งการดำเนินการช่วยเหลือแบบเจาะจงเฉพาะกิจการภัตตาคารและร้านอาหารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ เยียวยาต้นทุน ออกมาตรการลดค่าเช่าทั้งในห้างฯ และนอกห้างฯ ลดค่าไฟฟ้า ลดค่าน้ำเป็นเวลา 60 วัน, ชดเชยรายได้ให้กับผู้ประกอบการ โดยประเมินจากฐานการชำระภาษีประจำเดือน เป็นเวลา 30 วัน , ออกมาตรการควบคุมค่าGP แพลทฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ให้อยู่ที่ไม่เกิน 15% เป็นเวลา 30 วัน , อนุญาตให้แพลทฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สามารถรับชำระค่าสินค้าในโครงการคนละครึ่งได้, จัดงบประมาณในการจัดซื้อข้าวกล่องจากร้านอาหารเพื่อนำแจกจ่ายให้ตามแคมป์คนงานและชุมชนต่าง ๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือด้านอาหาร ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างกระแสเงินสดต่อลมหายใจให้ร้านอาหาร

รวมถึง ขยายระยะเวลาชชดเชยค่าแรง 50% และเยียวยาค่าแรง 2,000 บาท และ 3,000 บาทออกไปอีกเป็น 60 วัน ยกเว้นการจัดเก็บภาษีต่าง ๆ ทุกประเภท ต่อกิจการภัตตาคารและร้านอาหาร เป็นเวลา 6 เดือน, หยุดพักชำระเงินต้น และลดดอกเบี้ยเงินกู้ ที่ผู้ประกอบการกู้มาในช่วงวิกฤตการระบาดโควิด-19 ,9 ปล่อยสินเชื่อเงื่อนไขพิเศษ เนื่องจากมาตรการทางการเงินที่มีมาผู้ประกอบการภัตตาคารและร้านอาหารเข้าไม่ถึงสินเชื่อดังกล่าว ได้รับการปฏิเสธจากธนาคารต่าง ๆ ตามฎเกณฑ์ คุณสมบัติการกู้ในภาวะสถานการณ์ปกติมาใช้พิจารณา ทำให้เกิดข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ประกอบการภัตตาคารและร้านอาหารSME( ตามที่ได้เสนอแก่สภาพัฒน์และกระทรวงการคลังจำนวน สามหมื่นล้านบาท) และขอให้ตั้งคณะกรรมการที่รวมทุกฝ่ายเกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงานฯ หน่วยงานรัฐอื่น ๆ สมาคมศูนย์การค้า สมาคมภัตตาคารไทยและเครือข่ายผู้ประกอบการร้านอาหาร ร่วมกันเสนอแนวทางแก้ไข เพื่อออกเป็นมาตรการช่วยเหลือตามมา


“ข้อเสนอดังกล่าวมานี้ ก็เพื่อมุ่งหวังให้เกิดการช่วยเหลือกิจการภัตตาคารและร้านอาหารอย่างเป็นระบบและทันการณ์ก่อนที่หลายกิจการจะต้องปิดตัวลงและจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมภาพรวมตามมา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นรัฐบาลอาจต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการฟื้นฟู”นางฐนิวรรณ ระบุ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

พายุลูกเห็บถล่มโคราช

โคราชอ่วม พายุลูกเห็บพัดถล่มรุนแรง “พิมาย-ประทาย” กองน้ำแข็งขาวโพลน ต้นไม้โค่นล้มหลายจุด ชาวบ้านบอกไม่เคยเจอพายุลูกเห็บหนักขนาดนี้มาก่อน

ล่าโจรชิงทอง 30 เส้น กลางห้างฯ อุดรธานี

อุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี คนร้ายสวมเสื้อไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อก ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำภายในร้านทอง ได้ไปถึง 30 เส้น ตำรวจเร่งตามล่าตัว

หนุ่มจีนฆ่าโหดคู่ขา อ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ”

หนุ่มจีนยอมรับฆ่าสาว LGBTQ+ เพราะถูกปฏิเสธร่วมหลับนอน และถูกถีบตกเตียง จึงโมโหแล้วบีบคอจนสิ้นใจตายคามือ ก่อนอ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ” เลยใช้กรรไกรกรีดหน้าอก ตัดหัวใจ คว้านซิลิโคน ออกมาไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันไม่ได้แตะต้อง

เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในอิหร่าน-เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรง ที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการระเบิดของวัสดุเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 700 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน