คมนาคม หยุดให้บริการขนส่งสาธารณะ 21.00-04.00 เริ่ม 12 ก.ค.

กรุงเทพฯ 9 พ.ค.-กระทรวงคมนาคม สั่งหน่วยงานในสังกัด เตรียมมาตรการสอดรับ ศบค. สกัดโควิด-19 สั่งขนส่งสาธารณะหยุดให้บริการ 21.00 – 04.00 น. ดีเดย์ 12 ก.ค.นี้ พร้อมลดให้บริการข้ามจังหวัดจาก กทม.ไปยังพื้นที่ควบคุม 12 – 25 ก.ค. 64

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมเร่งด่วน เพื่อกำเนินการตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ว่า ที่ประชุม ศบค.ได้กำชับในประเด็น เรื่องการปรับลดการให้บริการสาธารณะ โดยมีมติในที่ประชุมให้ดำเนินการหยุดการบริการในช่วงเวลา 21.00-04.00 น. ยกเว้นรถที่มีความจำเป็น เช่น รถขนส่งอาหาร รถส่งสินค้า เป็นต้น ทั้งนี้ ให้เริ่มดำเนินการในวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 โดยให้ทุกหน่วยเร่งดำเนินการ


“หลังจากนี้ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการออกประกาศรายละเอียดการให้บริการให้เรียบร้อย เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบว่าจะมีการดำเนินมาตการดังกล่าว โดยให้รายงานผลมาที่กระทรวงคมนาคมทุกวัน ซึ่งเรื่องนี้จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 12 ก.ค.นี้ ดังนั้นขอให้จัดทำประกาศ และประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนทราบ ภายในเงื่อนเวลาดังกล่าว ”นายศักดิ์สยาม กล่าว

นอกจากนี้ ให้ลดการบริการขนส่งสาธารณะไปยังต่างจังหวัด หรือจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไปยังจังหวัดในกลุ่มควบคุมสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 12-25 ก.ค. 2564 โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยงานออกประกาศภายในวันนี้ เพื่อจะได้แจ้งประชาชนให้รับทราบ ขณะเดียวกัน ขอให้พิจารณาการเรื่องความถี่ในการให้บริการ เพื่อไม่ต้องเกิดความแออัด และเน้นย้ำให้มีมาตรการเว้นระยะห่าง (Social Distancing) และขอความร่วมมือให้รถสาธารณะ มีการตรวจวัดอุณหภูมิอย่างเข้มงวด


ส่วนหน่วยงานที่มีภารกิจการดำเนินโครงการก่อสร้าง ในพื้นที่ควบคุม 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร., นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ สมุทรสาคร, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส และสงขลา โดยขอให้ใช้มาตรการเชิงรุก เข้าไปตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้มีความชัดเจน เพื่อลดการแพร่ระบาดดังกล่าว

นอกจากนี้ ศบค. ยังได้เน้นย้ำให้การปฏิบัติงานหลังจากนี้ เป็นการประชุมออนไลน์ และปฏิบัติงานที่บ้าน (Work From Home หรือ WFH) เป็นหลัก แต่ในส่วนงานบริการประชาชน ยังขอให้ดำเนินการตามปกติ ดังนั้นให้ทุกหน่วยเข้มงวดมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกันต้องแจ้งบุคลากรให้ระวังในการหลังจากปฏิบัติงานแล้วต้องกลับไปพบเจอผู้อื่นๆหรือคนในครอบครัว ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากสถิติที่เกิดขึ้นขณะนี้เกิดจากการติดเชื้อมาจากคนใกล้ชิดส่วนใหญ่ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ