จับปุ๋ยเถื่อนหลักฐานคารถ พร้อมบุกโรงงานอายัดของกลางหลักล้าน

กรุงเทพฯ 7 ก.ค. – กรมวิชาการเกษตรผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. วางแผนล่อซื้อปุ๋ยเถื่อน  นัดส่งมอบสินค้าในปั๊มน้ำมันจ.ปทุมธานี หลักฐานคารถดิ้นไม่หลุด  ก่อนขยายผลบุกค้นโรงงานผลิตแถว จ.นครนายก  ย้ำความผิดเบื้องต้นผลิตปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนมีโทษปรับจำคุก


นายอนันต์  อักษรศรี   รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ในฐานะโฆษกกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า  ได้รับรายงานด่วนจากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรปทุมธานี  สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 5 จ.ชัยนาท  และสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร  กรมวิชาการเกษตร ว่า ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค  (กก.๒ บก. ปคบ.)  สนธิกำลังกันปฏิบัติการล่อซื้อปุ๋ยเคมีที่ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีว่ามีบริษัทซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ต.โพธ์แทน อ.องครักษ์  จ.นครนายก ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปุ๋ยเคมีโดยเป็นการกลับกระสอบถุงปุ๋ยและบรรจุเพื่อนำมาขายให้เกษตรกร   คณะเจ้าหน้าที่จึงติดต่อขอซื้อผลิตภัณฑ์ปุ๋ยเคมีดังกล่าวจำนวน 100 กระสอบ  และปุ๋ยเคมีธาตุอาหารรอง  ธาตุอาหารเสริม จำนวน 3 กระสอบ  โดยนัดส่งมอบและจ่ายเงินค่าสินค้าที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงแห่งหนึ่งบริเวณ ต.ลำไทร  อ.ลำลูกกา  จ.ปทุมธานี

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ได้มีการสั่งซื้อและนัดหมายสถานที่และเวลาในการส่งมอบสินค้าดังกล่าวแล้วคณะเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วน  โดยส่วนหนึ่งได้เดินทางไปซุ่มดูบริเวณบริษัทซึ่งเป็นแหล่งผลิตตามที่ได้รับแจ้งพบรถยนต์จำนวน 2 คันบรรทุกปุ๋ยเคมีออกมาจากบริษัทมุ่งหน้าไปยังจุดนัดหมายที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง จ.ปทุมธานี  ซึ่งมีคณะเจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรและเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีก 1 ชุดรอรับสินค้า  โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้แสดงตนและแจ้งความประสงค์เพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์สินค้าที่บรรทุกมาภายในรถยนต์  ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าผลิตภัณฑ์ปุ๋ยเคมีที่ตรวพบดังกล่าวมีโรงงานผลิตอยู่ที่ จ.นครนายก  เจ้าหน้าที่จึงได้ขยายผลไปตรวจค้นโรงงานผลิตปุ๋ยดังกล่าว   ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพบ ปุ๋ยเคมีบรรจุในกระสอบพลาสติกสานกลับด้าน  ขนาดบรรจุ 50 กิโลกรัม จำนวน 995 กระสอบ  ปุ๋ยเคมีสูตร 13-3-5 บรรจุในกระสอบพลาสติกสานขนาดบรรจุ 50 กิโลกรัม จำนวน 200 กระสอบ  และปุ๋ยเคมีสูตร 13-3-10 บรรจุในกระสอบพลาสติกสานขนาดบรรจุ 50 กิโลกรัม จำนวน 556 กระสอบ 


อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจำนวนผลิตภัณฑ์ปุ๋ยเคมีที่ตรวจพบต้องสงสัยว่าผิดกฎหมายมีปริมาณมากจำนวน 92.40 ตัน  ซึ่งยากต่อการเคลื่อนย้ายและเก็บรักษา  เจ้าพนักงานจึงได้ร่วมกันตรวจยึด  อายัด ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยเคมีที่ตรวจพบไว้ที่สถานที่ผลิต   และเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตรได้เก็บตัวอย่างปุ๋ยเคมีเพื่อนำมาตรวจสอบคุณภาพในห้องปฏิบัติการของกรมวิชาการเกษตรเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป  ทั้งนี้ความผิดในเบื้องต้นจากการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานผลิตปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติปุ๋ยต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 5 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000-200,000 บาท 

การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่กรมวิชาการเกษตรยอมไม่ได้และจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพราะถือเป็นการสร้างความเดือดร้อนและเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19   ซึ่งหากปล่อยให้ปุ๋ยเคมีปลอมและไม่ได้มาตรฐานจำนวนดังกล่าวหลุดรอดไปสู่เกษตรกรจะทำให้เกิดความเสียหายเป็นมูลค่าถึง 1,611,170 บาท  จึงขอความร่วมมือให้เกษตรกรและประชาชนที่ได้รับผลกระทบหรือทราบเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของกรมวิชาการเกษตรทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้ทราบเพื่อจะได้เข้าไปดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดต่อไป   โดยสามารถแจ้งได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 0-2940-5434” โฆษกกรมวิชาการเกษตร  กล่าว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

ภาคใต้น่าห่วง น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ ยะลาอ่วมสุด

จังหวัดภาคใต้น้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ จ.ยะลา หนักสุดในรอบหลายสิบปี ขณะที่ปัตตานี ประกาศให้โรงเรียนในเขตเทศบาลฯ ปิดการเรียนการสอน 2 วัน เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤติ