fbpx

คพ. เร่งหารือศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จ. สมุทรปราการควบคุมการปะทุของไฟ

กรุงเทพฯ 7 ก.ค. – อธิบดีกรมควบคุมมลพิษระบุ จะหารือคณะกรรมการจ. สมุทรปราการในการใช้  “ออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์” ฉีดพ่นทั่วบริเวณเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับสารสไตรีนให้แข็งตัวและติดไฟยากขึ้น ขอให้ทุกฝ่ายร่วมผลักดันพ.ร.บ. สิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ที่มีบทบังคับเข้มแข็ง ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศรอบพื้นที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงาน หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด อ. บางพลี จ. สมุทรปราการทุกชั่วโมง ปรากฏว่า คุณภาพอากาศเป็นปกติแล้ว โดยในรัศมีเกินกว่า 1 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ ไม่พบทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก สารอินทรีย์ระเหยง่าย และก๊าซอื่นๆ ที่มีความเข้มข้นเกินมาตรฐานที่กำหนด ส่วนระยะรัศมี 1 กิโลเมตรแรกยังมีเกินเป็นระยะๆ ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการอาจจะประกาศเรื่องการกลับเข้าบ้านเรือนของประชาชนบางส่วน สำหรับผลการเก็บตัวอย่างน้ำส่งตรวจในห้องปฏิบัติการคาดว่า จะทราบผลช่วงบ่ายนี้ แต่จะเพิ่มจุดเก็บตัวอย่างน้ำอีกเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนในพื้นที่โดยรอบ

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวต่อว่า ยังไม่ทราบปริมาณสารสไตรีนที่โรงงานเก็บไว้ว่า ยังคงหลงเหลืออยู่เท่าไรเพราะการแจ้งปริมาณเก็บสารเคมีอันตราย ทางโรงงานแจ้งกับอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ โดยยังคงเป็นห่วงเรื่องการควบคุมไฟที่อาจปะทุขึ้นอีก หากอุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงจุดวาบไฟของสารสไตรีน บ่ายนี้จึงจะร่วมหารือกับคณะกรรมการแก้ปัญหาไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ของจ. สมุทรปราการเกี่ยวกับการใช้สาร “ออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์” ฉีดพ่นจุดเกิดเหตุ ซึ่ง“ออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์” จะทำปฏิกิริยา โดยทำให้สารสไตรีนที่โรงงานเก็บไว้ใต้ดินแข็งตัวและติดไฟยากขึ้น โดยประสานบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและวางแผนวิธีการปฏิบัติ หากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสมุทรปราการพิจารณาเห็นชอบก็จะเร่งดำเนินการ


อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายร่วมผลักดันร่างพ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมฉบับใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขเนื่องจากมีบทบังคับที่ละเอียดครอบคลุมในการป้องกันและเยียวยาโดยเฉพาะการให้โรงงานรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่งต่อความเสียหายต่อทั้งประชาชนและสิ่งแวดล้อม. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน