กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ศาลอาญายกฟ้อง “ศุภชัย ศรีศุภอักษร” อดีตประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น และพวกรวม 12 คนในคดีฉ้อโกงประชาชนและลักทรัพย์นายจ้าง แต่ยังคงต้องต่อสู้คดีตามกฎหมายฟอกเงินอีก
สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นประกาศแจ้งสมาชิก เจ้าหนี้ สหกรณ์เจ้าหนี้ และผู้เกี่ยวข้องทราบถึงผลการพิจาณาคดีของศาลอาญาเมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.) 2 คดีที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ และสหกรณ์ฯ คลองจั่นเป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานกรรมการสหกรณ์ฯคลองจั่น จำเลยที่ 1 และพวกรวม 12 คน
ทั้งนี้ ใน คดี อ.3339/2559 ความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน ศาลวินิจฉัยและมีคำสั่งว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร จำเลยที่ 1 เคยถูกฟ้องคดีอาญาในคดี อ.1260/2561 โดยสมาชิกสหกรณ์ฯ คลองจั่นรวม 412 คน ยื่นฟ้องสหกรณ์ฯ คลองจั่น เป็นจำเลยที่ 1 นายศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นจำเลยที่ 2 มาก่อนหน้า ซึ่งต่อมา ศาลพิพากษายกฟ้องสหกรณ์ฯ คลองจั่นและนายศุภชัย เมื่อ 30 มิถุนายน 2563 ดังนั้น เมื่อจำเลยที่ 1 เคยถูกฟ้องในความผิดในการกระทำคราวเดียวกัน โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิ์นำคดีนี้มาฟ้อง ตาม ป.วิ อาญา มาตรา 39 (4)
สำหรับจำเลยที่ 2 ถึง 12 ศาลเห็นว่า พยานต่างๆ เบิกความถึงพฤติการณ์การกระทำ การลงบัญชีเพื่อให้เห็นว่ามีการหมุนเวียนทางบัญชีเป็นเท็จ การลงข้อมูลไม่ได้ลงในวันทำการปกติ การลงบัญชีไม่สามารถเป็นไปได้ พยานผู้ตรวจบัญชีเบิกความในทำนองเดียวกันว่า การกระทำต่างๆเป็นการกระทำผิดระเบียบ ได้ให้สหกรณ์ฯ แก้ไขข้อบกพร่องแล้ว พยานโจทก์ที่นำสืบมาไม่ได้เบิกความว่า จำเลยที่ 2 ถึง 12 ร่วมกระทำกับจำเลยที่ 1 อย่างไร ในการทำสัญญากู้มาตกแต่งบัญชี ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ได้ โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยที่ 2 ถึง 12 ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ จึงยกประโยชน์ความสงสัย โดยพิพากษาให้ยกฟ้อง
ส่วนคดีที่ 2 ความผิดฐาน ลักทรัพย์นายจ้าง ปลอม และใช้เอกสารปลอม ศาลเห็นว่า จำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 4 ถูกฟ้องเมื่อปี 2559 โดยคำฟ้องบรรยายการกระทำผิดว่า ช่วงเดือนมกราคม 2551 ถึงธันวาคม 2555 วันเวลาใดไม่ปรากฏ ซึ่งเป็นช่วงเวลาทับซ้อนกับคดีนี้ ทั้งบรรยายว่า มีการทำสัญญาปลอมเพื่อตกแต่งบัญชีงบดุล เพื่อให้ดูว่ามีผลกำไร ทั้งๆ ที่ประสบภาวะขาดทุน ทำสัญญากู้ทั้งที่ไม่ได้คู่กันจริง เป็นการปลอมใช้เอกสารปลอม เพื่อปกปิดการเอาเงินออกไป พยานโจทก์เบิกความว่า เงินที่ถอนเป็นเงินจำนวนเดียวกันกับคดีก่อนหน้า จึงเป็นเรื่องของการกระทำในคราวเดียวกันกับคดีแรก จึงไม่วินิจฉัย พิพากษายกฟ้องเช่นกัน
ทั้งนี้ฝ่ายกฎหมายของสหกรณ์ฯ คลองจั่นระบุว่า นายศุภชัยกับพวก ได้ประโยชน์จากการยกฟ้องในคดีที่ศาลยกฟ้องสหกรณ์ฯ คลองจั่น ซึ่งถูกสมาชิกฟ้องร้องตามความผิดเดียวกัน ตาม ป.วิ อาญา มาตรา 39 (4) ซึ่งโจทย์ไม่มีสิทธิ์ฟ้องซ้ำ แต่นายศุภชัยกับพวกยังถูกฟ้องร้องในคดีตามกฎหมายฟอกเงินอีกหลายสำนวน โดยไม่ได้รับการประกันตัว ถูกคุมขังในเรือนจำกลางบางขวาง. – สำนักข่าวไทย