ปตท.ตั้งเป้าร่วมทุน “ฟ็อกซ์คอนน์” ผลิตยานยนต์อีวี 1 แสนคัน/ปี

กรุงเทพฯ 29 มิ.ย. – ปตท.ตั้งเป้าผลิตยานยนต์อีวี 1 แสนคัน/ปี เป็นหนึ่งในแผนศึกษาร่วมทุนกับ “ฟ็อกซ์คอนน์” ด้านประธานบอร์ดอีวี เร่งทำตามแผนนำประเทศไทยสู่เป้าหมายผลิตอีวี 30% ปี 2030


นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวในงานเสวนา “รถยนต์ไฟฟ้าพลิกโอกาสธุรกิจเปลี่ยนวิถีชีวิตคนไทย” ว่า กลุ่ม ปตท.วางแผนเรื่องห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ครบวงจร ล่าสุดการที่ ปตท. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการลงทุนด้านอีวี กับบริษัท หงไห่ พริซิชั่น อินดัสทรี จำกัด (Hon Hai Precision Industry Co., Ltd.) หรือ ฟ็อกซ์คอนน์ กรุ๊ป (Foxconn Technology Group) จากไต้หวัน เพื่อศึกษาโอกาสในการพัฒนาฐานการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย และจะเป็นโรงงานกลางที่สามารถรับจ้างผลิต และเป็นฐานทางด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รถอีวีได้หลายยี่ห้อ และหากศึกษาแผนร่วมทุนกันสำเร็จ ปตท.จะพยายามดึงให้เกิดการจัดตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย เบื้องต้นมองเป้าหมาย กำลังการผลิตรถยนต์ 4 ล้อ อยู่ที่ 1 แสนคัน/ปี โรงงานนี้ไม่ได้สร้างแบรนด์ของตนเอง รับจ้างผลิตตามการออกแบบของลูกค้าที่ลูกค้าสร้างแบรนด์ของตัวเอง การดำเนินการเช่นนี้ก็จะลดต้นทุนในการผลิตอีวีในไทย

ส่วนรถ 2 ล้อ ปตท.กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการให้บริการ ธุรกิจให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ล่าสุดบริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด (Swap & Go) คาดว่าจะเปิดตัวภายใน 2 เดือนนี้ ซึ่งขณะนี้ได้นำเข้ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเข้ามาแล้ว จำนวน 40 คัน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสถานีอัดประจุไฟฟ้า ในส่วนที่จัดตั้งในปั๊มน้ำมัน ของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ได้จัดตั้งแล้ว 30 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 100 แห่งในสิ้นปีนี้ ส่วนการจัดตั้งนอกปั๊มน้ำมัน จะดำเนินการโดยบริษัท ออน-ไอออน โซลูชั่นส์ จำกัด (“On-I on Solutions”) ซึ่งมีเป้าหมายจะติดตั้ง 100 แห่งในสิ้นปีนี้ ดังนั้น สิ้นปีนี้ ในส่วนของกลุ่ม ปตท.จะมีปั๊มชาร์จไฟฟ้าทั้งหมด 200 แห่ง


ในส่วนของแบตเตอรี่ ทางบริษัทลูก คือ GPSC มีการลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน ที่ จ.ระยอง มีการเปิดตัวแบตเตอรี่ G-Cell ที่ใช้เทคโนโลยี Semi Solid เซลล์แรกของประเทศไทย โดยการใช้เทคโนโลยีการผลิต 24M จากสหรัฐ ขณะนี้โรงงานก่อสร้างเสร็จแล้ว เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา จะมีกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์-ชั่วโมง และกำลังพิจารณาเพิ่มเป็น 1 กิกะวัตต์-ชั่วโมง ภายใน 2 ปี

นอกจากนี้ GPSC ได้จัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อดำเนินการเข้าลงทุนในบริษัท Anhui Axxiva New Energy Technology Co., Ltd. (“AXXIVA”) ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงงานผลิตแบตเตอรี่ โดยใช้เทคโนโลยี 24M มีมูลค่าการลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท มีเป้าหมายกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ต่อปี คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปลายปี 2564 และเริ่มดำเนินการผลิตแบตเตอรี่เชิงพาณิชย์ภายในต้นปี 2565 เพื่อป้อนให้กับกลุ่มลูกค้าหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศจีน ในขณะที่สถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) ของ ปตท. ก็มีการวิจัยแบตเตอรี่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอัดประจุไฟฟ้าให้มากขึ้น ซึ่งอยู่ระหว่างจัดทำต้นแบบการผลิต

ส่วนเรื่องของ ESS ได้จัดทำโครงการ G-Box ระบบกักเก็บพลังงานผ่านแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System) ขนาด 150 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) นำร่องติดตั้งในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เพื่อรองรับ EV Station พร้อมโซลูชั่นจ่ายไฟฟ้าครอบคลุมกิจกรรมต่างๆ ภายในสถานี


“ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ ตามข้อมูลของบลูมเบิร์ก พบว่า การผลิตรถเครื่องยนต์สันดาป ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว เมื่อปี 2560 ชี้ให้เห็นว่า ต่อนี้ไปรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นอีวี ภายในปี 2583 จะมียอดการผลิตรถอีวีของโลกอยู่ที่ 500 ล้านคัน ถือเป็นเทรนด์ที่สูงมาก ซึ่ง ปตท.ก็ต้องเข้ามาลงทุนด้านนี้ เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว” นายอรรถพล กล่าว

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้า (บอร์ดอีวี) กล่าวว่า บอร์ดอีวีได้กำหนดส่งเสริมให้เกิดการผลิตรถยนต์พลังงานสะอาด (Zero Emission Vehicle) หรือ ZEV ในประเทศช่วง 4 ปีแรก เน้นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไว้ที่ 225,000 คัน หรือ 10% ของกำลังการผลิตรถยนต์ และวางเป้าหมายการพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า 2,000-4,000 แห่ง ภายในปี 2568 เพื่อให้ไทยสามารถก้าวไปสู่เป้าหมายในปี 2573 (ค.ศ.2030) ที่กำหนดการผลิตรถ ZEV ไว้ทั้งสิ้น 30% ของกำลังผลิตทั้งหมด หรือ 720,000 คัน และมีสถานีจ่ายไฟ 12,000 แห่ง เพื่อให้ไทยเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ (Low-carbon Society) ในอนาคตตามทิศทางของโลก ในขณะที่แบตเตอรี่นับเป็นป็นหัวใจของรถอีวี นับต้นทุนถึง 40% จึงวางแผนผลิตในระยะสั้นที่ราว 20 กิกะวัตต์ ก็น่าจะเป็นกำลังผลิตที่จะดึงดูดการลงทุนได้

ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวจะทำให้เกิดการลงทุนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ สถานีชาร์จไฟแบบเร็ว และรวมไปถึงไฟฟ้า โดยได้มีการหารือกับ 3 การไฟฟ้าที่จะต้องพัฒนาสายส่งเป็นสายส่งอัจฉริยะ หรือสมาร์ทกริด สิ่งเหล่านี้ก็จะตอบสนองเทรนด์โลก ลดโลกร้อน ก็จะเห็นได้ว่าในการประชุมกลุ่มผู้นำ G7 ประกาศเจตจำนงในการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งขณะนี้ไทยเองปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 300 ล้านตัน/ปี ในขณะที่ราคาคาร์บอนเครดิตขณะนี้ราคาปรับขึ้นไปสู่ 50 ยูโร/ตัน หากในอนาคตไทยลดก๊าซฯ นี้และปรับมาเป็นการจำหน่ายผ่านโครงการต่างๆ ก็จะได้ตลาดนับเป็นมูลค่า 5 แสนล้านบาท/ปี

สำหรับเป้าหมายรถอีวี ที่เป็นรถ 4 ล้อ กำหนดผลิตในปี 2568 อยู่ที่ 225,000 คัน และปี 2573 รถ 4 ล้อ อยู่ที่ 725,000 คัน, รถ 2 ล้อ 675,000 คัน และรถบัส 34,000 คัน คิดเป็น 50% ของจำนวนรถบัสที่ผลิตออกมา. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย