กรุงเทพฯ 23 มิ.ย.-ราชกิจจานุเบกษา ประกาศกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ และราคาค่าโดยสาร “รถส่วนบุคคล” จดทะเบียนเป็น “แท็กซี่” บริการผ่านแอปพลิเคชัน แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (23 มิ.ย.64) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศเผยแพร่กฎกระทรวง รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2564 เนื้อหาระบุว่า อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๕ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๑๐) และ (๑๘) แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๔๒ และมาตรา ๕ (๑๔) และ (๑๕) แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๔๗ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงนี้ “รถยนต์รับจ้าง” หมายความว่า รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน “รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์” หมายความว่า รถยนต์รับจ้างที่เป็นการนํารถยนต์นั่งส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ข้อ ๒ การจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้แบ่งเป็น ๓ ประเภท ดังนี้
(๑) ขนาดเล็ก (๒) ขนาดกลาง และ (๓) ขนาดใหญ่ ในการรับจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้จดทะเบียนได้เพียง คนละหนึ่งคัน
ข้อ ๓ รถที่จะรับจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต้องเป็นรถที่มีประตู ไม่น้อยกว่าสี่ประตู และต้องมีลักษณะเป็นรถเก๋งสองตอน รถเก๋งสองตอนแวน รถเก๋งสามตอน รถเก๋งสามตอนแวน รถยนต์นั่งสองตอน รถยนต์นั่งสองตอนแวน รถยนต์นั่งสามตอน รถยนต์นั่ง สามตอนแวน หรือรถยนต์ลักษณะอื่นตามที่อธิบดีประกาศกําหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี
ข้อ ๔ รถที่จะรับจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามประเภท ของการจดทะเบียนที่กําหนดในข้อ ๒ ต้องมีกําลังของเครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้า ดังต่อไปนี้
(๑) รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กต้องมีกําลังในการขับเคลื่อนตั้งแต่ ห้าสิบกิโลวัตต์แต่ไม่เกินเก้าสิบกิโลวัตต์
(๒) รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ขนาดกลางต้องมีกําลังในการขับเคลื่อนมากกว่า เก้าสิบกิโลวัตต์แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยยี่สิบกิโลวัตต์
(๓) รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ต้องมีกําลังในการขับเคลื่อนมากกว่า หนึ่งร้อยยี่สิบกิโลวัตต์ขึ้นไป
ส่วนกรณีเป็นรถที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนต้องมีความเร็วสูงสุดได้ไม่น้อยกว่า เก้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง การวัดกําลังของเครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้าตามวรรคหนึ่ง และการวัดความสามารถ ในการขับเคลื่อนรถตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีประกาศกําหนด
ข้อ ๕ รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีและใช้อุปกรณ์เครื่องสื่อสาร เพื่อการรับงานจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรอง ระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหนึ่ง ต้องมีคุณลักษณะและระบบการทํางานตามที่อธิบดี ประกาศกําหนด ซึ่งอย่างน้อยต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถและผู้ขับรถ ระบบการแสดงตัวตนของผู้ขับรถ ระบบการคิดอัตราค่าโดยสารล่วงหน้า ระบบติดตามตัวรถ ระบบตรวจสอบเวลาและสถานที่รับส่ง และ ระบบแจ้งการร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวต้องดําเนินการ โดยผู้ให้บริการระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรอง รวมทั้งต้องมีการจัดเก็บข้อมูล ที่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างน้อยหนึ่งเดือน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหนึ่งและผู้ให้บริการ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามที่อธิบดีประกาศกําหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี
ข้อ ๖ รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีและแสดงเครื่องหมายแสดงการเป็น รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องหมายอื่นตามที่อธิบดีประกาศกําหนดแบบและการแสดงเครื่องหมายตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่อธิบดีประกาศกําหนด ทั้งนี้ อาจกําหนดให้แตกต่างกันตามประเภทของการจดทะเบียนในข้อ ๒ ก็ได้
ข้อ ๗ รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ใช้สีของตัวถังรถตามสีเดิมที่ปรากฏใน ใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลก่อนการจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้าง ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ข้อ ๘ รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้มีอายุการใช้งานได้ไม่เกินเก้าปีนับแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก
ในกรณีที่รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ครบอายุการใช้งานตามวรรคหนึ่ง ให้เจ้าของรถ นําเครื่องหมายตามข้อ 5 ออก พร้อมนําใบคู่มือจดทะเบียนรถไปแสดงต่อนายทะเบียนเพื่อบันทึกหลักฐาน การระงับทะเบียนหรือเปลี่ยนประเภทรถ ทั้งนี้ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ครบอายุการใช้งาน
ข้อ ๙ ให้รัฐมนตรีมีอํานาจประกาศกําหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าบริการอื่น สําหรับรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังต่อไปนี้
(๑) รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามประเภทของการจดทะเบียนที่กําหนด ในข้อ ๒ (๑) และ (๒)
(ก) ค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร ให้กําหนดโดยถือเกณฑ์ระยะทางสองกิโลเมตรแรก ไม่เกินห้าสิบบาท และกิโลเมตรต่อ ๆ ไป กิโลเมตรละไม่เกินสิบสองบาท ในกรณีที่ระบบการคิดอัตรา ค่าโดยสารล่วงหน้าประเมินสภาพการจราจรว่าไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้ตามปกติวิสัย ในอัตรานาทีละไม่เกินสามบาท
(ข) ค่าบริการอื่น ให้กําหนดดังต่อไปนี้
๑) กรณีการจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารหรือระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์กําหนดได้ ไม่เกินห้าสิบบาท
๒) ค่าบริการเพิ่มกรณีอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด กําหนดได้ไม่เกินสองร้อยบาท (๒) รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามประเภทของการจดทะเบียนที่กําหนดในข้อ ๒ (๓)
(ก) ค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร ให้กําหนดโดยถือเกณฑ์ระยะทางสองกิโลเมตรแรก ไม่เกินสองร้อยบาท และกิโลเมตรต่อ ๆ ไป กิโลเมตรละไม่เกินสามสิบบาท ในกรณีที่ระบบการคิดอัตรา ค่าโดยสารล่วงหน้าประเมินสภาพการจราจรว่าไม่สามารถเคลื่อนที่หรือเดินรถต่อไปได้ตามปกติวิสัย ในอัตรานาที่ละไม่เกินสิบบาท
(ข) ค่าบริการอื่น ให้กําหนดดังต่อไปนี้
๑) กรณีการจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารหรือระบบสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์กําหนดได้ ไม่เกินหนึ่งร้อยบาท
๒) ค่าบริการเพิ่มกรณีอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด กําหนดได้ไม่เกินสองร้อยบาท
ข้อ ๑๐ การเรียกเก็บค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารของรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้เรียกเก็บตามจํานวนเงินซึ่งคํานวณโดยระบบการคิดอัตราค่าโดยสารล่วงหน้าที่ปรากฏในอุปกรณ์เครื่องสื่อสาร เพื่อการรับงานจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ ๕ โดยต้องแจ้งให้คนโดยสารทราบก่อนทําการขนส่ง คนโดยสารนั้น
ข้อ ๑๑ แผ่นป้ายทะเบียนรถของรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้มีขนาด ลักษณะ และสีเช่นเดียวกับแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน ทั้งนี้ อาจให้ใช้แผ่นป้ายทะเบียน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคนเดิมก็ได้
ข้อ ๑๒ รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต้องมีการตรวจสภาพรถตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๑๕ ทวิ รวมทั้งต้องรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยทั้งภายนอกและภายในตัวรถ
ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2564 ลงนามโดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม.-สำนักข่าวไทย