ประธานหอการค้าไทย หนุนนายกฯ 120 วันเปิดประเทศ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-ประธานหอการค้าไทย หนุนนโยบาย นายกฯ 120 วันเปิดประเทศ ชี้กินบุญเก่าเอาไม่อยู่ ต้องดึงเงินต่างประเทศมาฟื้นเศรษฐกิจ ลั่นอย่ากลัวโควิด-19 ขอทุกฝ่ายต้องช่วยควบคุมการระบาด ลำพังนายกฯ คนเดียวไม่ไหว แนะแบงค์ชาติ-คลัง ปลดล็อกลูกหนี้เข้าถึงแหล่งเงินกู้

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยภายหลังร่วมประชุม กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่อหารือนโยบายช่วยเหลือเอสเอ็มอีกับภาคเอกชน ว่า สภาหอการค้าสนับสนุนการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ที่จะเปิดประเทศ 120 วัน ซึ่งจะสามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคนต่างชาติ ว่าประเทศไทยมีความพร้อมแล้ว และมีความจำเป็นต้องนำเงินจากต่างประเทศเข้ามาในเมืองไทย เพราะขณะนี้เหมือนกับเรายังกินบุญเก่า โดยนำเงินของตนเองมาเยียวยา หามาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอ หากยังไม่มีธุรกิจใหม่ เมื่ออัดฉีดเงินเข้าไปยัง ผู้ประกอบการ หรือ เอสเอ็มอี ก็ยังต้องพึ่งเงินสนับสนุน เยียวยาจากรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ซึ่งยังไม่พอ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ


สำหรับเรื่องการท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องเปิด เพื่อให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยว และทำให้นักธุรกิจต่างชาติสามารถเดินทางมาในไทยได้ อีกทั้งยังเป็นฤดูกาลที่จะต้องสั่งสินค้า ลูกค้าจากประเทศต่างๆจะสามารถเดินทางเข้ามาไทย และจะทำให้คนไทยสามารถเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อหาออเดอร์จากต่างประเทศได้

นายสนั่น กล่าวว่าในช่วง 120 วันนี้ ต้องรู้ว่าต้องทำสิ่งไหนบ้าง เช่น นายกรัฐมนตรีจะต้องหาวัคซีนมาให้เพียงพอในการบริการฉีดประชาชนคนไทยให้ถึง 50 ล้านคน ซึ่งตนเองคิดว่า ตรงนี้จะทำให้สบายใจได้ ขณะเดียวกันทางด้านสาธารณสุข บุคลากรทางการแพทย์ จะต้องหามาตรการป้องกันไม่ให้โรคระบาดเกิดมายิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. คน กทม.ต้องช่วยกัน ป้องกันไม่ให้โรคโควิดขยายวง ซึ่งเรื่องนี้จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนายกฯคนเดียวไม่ได้ ทุกคนต้องทำงานแบบบูรณาการ ขณะเดียวกัน ตนเองและหอการค้าไทยก็ได้พูดคุยกับหอการค้าทุกจังหวัด ว่า จะต้องมีการเตรียมความพร้อม ทั้งโรงแรมและร้านอาหารต่างๆ ต้องปรับปรุงแซ่อมแซม เตรียมพนักงานให้เพียงพอ อีกทางหนึ่งหอการค้าจะเป็นตัวกลางเจรจากับสถาบันการเงิน หรือธนาคารต่างๆ ในการพิจารณาปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการ ที่อยู่ในภาวะลำบาก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นกลับมาได้


ส่วนกรณีที่แพทย์เสนอให้ล็อคดาวน์ประเทศเพราะสถานการณ์แพร่ระบาดยังหนักนั้น นายสนั่น กล่าวว่า ตรงนี้ต้องตั้งคำถามตัวเองก่อนว่าทำไมต้องเปิดประเทศ เพราะเชื้อโควิดยังอยู่กับเราต่อไป ฉะนั้นก็จะต้องปรับตัวอย่างไรเพื่อให้เปิดประเทศได้ หากกลัวอย่างเดียว แต่ประเทศอื่นเปิดประเทศไปแล้ว จะทำให้ไทยเสียโอกาส ประเทศใดที่มีวัคซีนเข้าถึงประชาชนได้ เศรษฐกิจประเทศนั้นจะกลับมาอย่างรวดเร็ว ประชาชนจะมีความปลอดภัย และการที่คนต่างประเทศจะเดินทางมาประเทศไทย ก็มีมาตรการควบคุมอยู่แล้ว เช่นเดียวกับประชาชนคนไทยก็ต้องมีความปลอดภัยด้วย

ขณะที่สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย อยากให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาเอ็นพีแอล นายสนั่น กล่าวว่า หอการค้าไทยเสนอให้รัฐบาลพิจารณาหนี้เอ็นพีแอล และ เครดิตยูโร โดยการผ่อนกฎเกณฑ์ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลังสามารถที่จะหารือกันได้ โดยไม่ต้องแก้กฎหมาย ถ้าไม่เช่นนั้นจะเป็นข้อจำกัดของสถาบันการเงินที่จะปล่อยเงินกู้ให้กับลูกหนี้หรือผู้ประกอบการ เพราะติดเงื่อนไขของธนาคารแห่งประเทศไทย และเชื่อว่า รัฐบาลจะสนับสนุน ซึ่งทางหอการค้าไทย เตรียมที่จะหารือร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ซึ่งมีแนวทางที่สอดคล้องกัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าผู้ประกอบการรายใหญ่จะเข้าไปค้ำประกันเงินกู้ เพราะตอนนี้เชื่อว่า ธนาคารพาณิชย์เองมีความเข้มแข็งพอ ที่จะพิจารณาปล่อยเงินกู้เอง

นายสนั่น ยังสนับสนุนให้นำเงิน พรก.กู้เงิน 5แสนล้านบาทออกมาใช้ โดยทางหอการค้าไทย ได้เสนอให้ใช้งบดังกล่าวแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ ขณะนี้ภายใน 120 วัน ที่จะเปิดประเทศจะต้องอัดเงินเยียวเข้าไปอย่างเต็มที่ และเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเสริม เพื่อเข้ามาต่อยอดหลังจากเปิดประเทศ 120 วันและผู้ประกอบการต่างๆแข็งแรงขึ้นก็จะได้รับโอกาสนี้


ส่วนมาตรการคนละครึ่งที่ทางหอการค้าไทยเสนอให้รัฐบาลเพิ่มวงเงิน จาก 3,000 บาท เป็น 6,000 บาท นั้น นายสนั่น กล่าวว่าต้องรอดู เพราะขณะนี้โครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ ดูเหมือนจะเกิดความยุ่งยาก ดังนั้นจึงให้ลองใช้ไปก่อน แต่ส่วนตัวเห็นว่า โครงการช้อปดีมีคืน เป็นโครงการที่สะดวก และดีกว่า จึงต้องค่อยๆ พิจารณาดูกันไปอีกที

ด้านนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า ได้เสนอมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพักต้นพักดอก เรื่องแนวทางตั้งกองทุนพยุงกิจการที่เข้าไม่ถึงสถาบันการเงินของภาครัฐและพาณิชย์ กองทุนฟื้นNPL

โดยทางสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยได้เสนอปรับ 4 เรื่อง 1.การใช้นิยามของเอสเอ็มอี ขอให้ใช้นิยามตามสสว. เพื่อเป็นมาตรฐานในการหารือกับธนาคารต่างๆ รวมถึงการสื่อสารกับผู้ประกอบ ภาครัฐจะได้ไปในทิศทางเดียวกัน 2.อยากให้แบ่งวงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท ว่า จะช่วยผู้ประกอบในแต่ละระดับวงเงินเท่าไหร่ ทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ รายเล็กและรายย่อย จะได้มีความชัดเจนในการใช้วงเงิน
3.การตั้งเป้าจำนวนผู้ประกอบการที่จะเข้าถึงในแต่ละวงเงิน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุนเป็นจำนวนสูงมาก เพื่อให้แต่ละธนาคารได้มีเป้าหมายในการไปปล่อยสินเชื่อในแต่ละวงเงินมีอยู่เท่าไหร่ 4.ทางสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยอยากให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในภงด.50 ที่เป็นนิติบุคคล และผู้ประกอบการตามภงด.90 ที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งอยากให้มีการช่วยเหลือซอฟต์โลนให้กับผู้ประกอบเหล่านี้เป็นลำดับแรกๆ

สำหรับมาตรการ พักต้นพักดอก อยากให้เข้ามาช่วยผู้ประกอบการที่ไม่สามารถเข้าถึงซอฟต์โลนได้ อย่างน้อยผู้ประกอบการเหล่านี้ไม่ได้ไปก่อหนี้ใหม่ แต่หนี้สินเดิมควรได้รับการดูแลพักต้นพักดอก โดยไม่คิดดอกเบี้ย เป็นเวลาอย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อทำให้ผู้ประกอบการมีเวลาฟื้นตัว

ทั้งนี้ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย พร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาลในการผลักดันให้สามารถเปิดประเทศภายใน 120 วัน

นอกจากนี้ นายแสงชัย กล่าวว่า ทางกระทรวงแรงงานอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับแก้กฏระเบียบกองทุนประกันสังคม 3 หมื่นล้านบาท ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและผู้ประกอบที่อยู่ในระบบ สามารถเข้าถึงกองทุนนี้ได้ในการช่วยเสริมสภาพคล่องและรักษาการจ้างงาน

ขณะที่นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี รับข้อเสนอแนะของทั้ง 3 สถาบัน โดยไม่ได้ปรับแก้อะไร โดยเรื่องหลักที่หารือเรื่องสภาพคล่องทางธุรกิจ หรือ Cash Flow การแก้ปัญหาหนี้ NPL ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยขอให้ปรับหลักเกณฑ์หนี้ NPL ด้วยการขอให้ธนาคารลดการจัดการความเสี่ยง หรือ การบริหารความเสี่ยง (Risk Management )ลงมาได้หรือไม่ ถ้ายังใช้กลไกเดิมก็ไม่สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการกู้เงินได้ ดังนั้นทางธนาคารต้องรับไปพิจารณา เนื่องจากสถานการณ์อยู่ในช่วงไม่ปกติ

ส่วนจะดำเนินการได้เร็วหรือไม่ ขึ้นอยู่กับธนาคารโดยเฉพาะธนาคารของรัฐ น่าจะดำเนินการได้ดีที่สุด และส่วนตัวเชื่อว่า กรอบ 120 วันที่เปิดประเทศ จะต้องรีบเข้ามาช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งเมื่อเปิดประเทศจะทำให้มีสภาพคล่องมากขึ้น

ทั้งนี้การหารือเป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งการประชุมวันนี้เป็นการหารือชุดเล็กเพื่อรับข้อเสนอโดยตรง แต่ยังไม่ได้กำหนดไทม์ไลน์ ดังนั้นจึงต้องมีการติดตามในลำดับต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]