กรุงเทพฯ 22 มิ.ย.- คลังเผยยอดลงทะเบียนยิ่งใช้ยิ่งได้ 2 วันแรก ยอด 2.83 แสนราย แนะใช้สิทธิ กระตุ้นการใช้จ่าย ร้านค้าลงทะเบียน ร่วมโครงการ 37,823 ราย
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การลงทะเบียนโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ในช่วง 2 วันแรก ยอดลงทะเบียนแล้ว 283,795 คน (เวลา 11.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน 2564) โดยประชาชนยังสามารถลงทะเบียนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้อย่างต่อเนื่องได้ตั้งแต่เวลา 06.00–22.00 น. ของทุกวัน จนกว่าจะครบ 4 ล้านสิทธิ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
กระทรวงการคลัง ขอย้ำว่าประชาชนที่ประสงค์จะลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ จะต้องดำเนินการผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com เพียงเว็บไซต์เดียวเท่านั้น โดยขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อเว็บไซต์หรือเพจอื่นๆ นอกเหนือจากที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้จะไม่มีการแจกเงินสดจำนวน 7,000 บาท ซึ่งโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้เป็นโครงการที่รัฐบาลจะสนับสนุนเป็น e–Voucher เมื่อประชาชนใช้จ่ายค่าสินค้าหรือบริการ ได้แก่ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป ค่าบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ น้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ บัตรกำนัล (gift voucher) บัตรเงินสด (gift card) และสินค้ารูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า ผ่าน g-wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2564 เวลา 06.00 น.–23.00 น.
วงเงินใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณสิทธิ e-Voucher ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน ซึ่งยอดใช้จ่ายที่นำมาคำนวณสิทธิต้องไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน และจะได้รับสิทธิ e-Voucher สะสมสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ โดยยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1-40,000 บาทแรก ได้รับ e -Voucher ร้อยละ 10 ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน และยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 40,001-60,000 บาท ได้รับ e -Voucher ร้อยละ 15 ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งสิทธิ e-Voucher จะคืนเป็นวงเงินเข้าใน g-Wallet ทุกวันที่ 7 ของเดือนถัดไป ทั้งนี้ สามารถใช้จ่ายด้วย e-Voucher ที่ร้านที่เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม–31 ธันวาคม 2564 โดยไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้
นอกจากนี้ ประชาชนสามารถเข้าร่วมโครงการของรัฐได้เพียงโครงการเดียว โดยหากประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 หรือโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษและมีความประสงค์จะลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้จะต้องลงทะเบียนผ่าน g-wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เพียงช่องทางเดียว ภายในวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564 เวลา 22.00 น. ดังนั้น หากประชาชนที่ยังไม่มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
ประชาชนจะต้องทำการโหลดและยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนเพื่อใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ก่อนทำการเปลี่ยนสิทธิโครงการเดิมมาเป็นโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ และสามารถเปลี่ยนแปลงโครงการได้เพียง 1 ครั้ง และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีก ซึ่งเมื่อเปลี่ยนแปลงสิทธิเรียบร้อยแล้วจะถือเป็นการสละสิทธิโครงการเดิมที่ลงทะเบียนไว้แล้ว
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้และมีคุณสมบัติเป็นไปตามที่กำหนด ได้แก่ ร้านค้าทั่วไป ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านธงฟ้า ร้าน OTOP ผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำผม ทำเล็บ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 06.00 น. – 22.00 น. เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือสาขาธนาคารกรุงไทยฯ โดยจากข้อมูล ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2564 เวลา 22.00 น. มีจำนวนผู้ประกอบการร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 37,823 ราย.- สำนักข่าวไทย