กฟผ. มอบหมวกป้องกันเชื้อ PAPR หนุนคุณหมอสู้โควิด-19

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.-กฟผ. ทยอยส่งมอบหมวกป้องกันเชื้อ PAPR ให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ปลอดภัยและมีความสะดวกมากขึ้นขณะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงวิกฤติโควิด-19


ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. ได้เริ่มทยอยส่งมอบหมวกป้องกันเชื้อ PAPR (Powered Air Purifying Respirator) ซึ่งผลิตโดยทีมช่างอาสา กฟผ. ให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) จังหวัดสมุทรสาคร และโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) จังหวัดนครปฐม รวมแล้วเกือบ 20 ชุด ก่อนทยอยมอบให้แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศ หลังพบปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ต้องเผชิญความลำบากในการปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยทั้งในห้อง ICU ห้องผ่าตัด หรือห้องปลอดเชื้อ จนกระทั่งบางรายเป็นลมในชุด PPE ตามที่มีกระแสข่าวในโลกโซเชียล กฟผ. จึงได้เริ่มพัฒนาการผลิตหมวกป้องกันเชื้อ PAPR ร่วมกับทีมแพทย์จนมั่นใจในการใช้งานแล้วจึงทยอยส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ ตามที่ได้มีการสำรวจความต้องการใช้งานในเบื้องต้น

เดิม กฟผ. ตั้งใจผลิตหมวกป้องกันเชื้อ PAPR จำนวน 300 ใบ แต่เนื่องจากพนักงาน กฟผ. ต้องการมีส่วนร่วมกับประชาชนจึงได้เกิดการระดมทุนผ่านแพลตฟอร์ม “เทใจ” จนได้เงินสนับสนุนมาซื้ออุปกรณ์การผลิตอีก 200 ใบ รวมเป็น 500 ใบ โดยมีศูนย์กลางการประกอบหลักที่ กฟผ.สำนักงานหนองจอก และกระจายไปยังเขตเขื่อน โรงไฟฟ้าต่างๆ ที่มีความสามารถภายใต้การควบคุมมาตรฐานกลางเดียวกัน ซึ่งจะผลิตในห้อง Clean Room เพื่อควบคุมความสะอาดตลอดขั้นตอนการผลิต


นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว กล่าวว่า ในการต่อสู้กับโควิด-19 ชุดป้องกันเป็นเสมือนเสื้อเกราะในการออกรบ แต่ปัญหาที่พบก็คือชุด Coverall เป็นชุดที่ใช้แล้วทิ้งจึงสิ้นเปลืองมาก อีกทั้งยังร้อนอบอ้าว แต่การมีหมวกป้องกันเชื้อ PAPR ทำให้ประหยัดชุด Coverall ได้ อีกทั้งยังดูแลผู้ป่วยได้นานขึ้น เพราะแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้ถึง 8 ชั่วโมง โดยไม่รู้สึกอ่อนล้า และสามารถปกป้องบุคลากรทางการแพทย์จากเชื้อโควิด-19 ได้อีกด้วย

ด้าน พญ.นิษฐา เอื้ออารีมิตร อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว เปิดเผยว่า การสวมชุด PPE ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ได้ยากลำบาก เพราะตัวชุดค่อนข้างใหญ่และต้องใช้คู่กับหน้ากาก N95 ทำให้ร้อนและหายใจไม่ออก แต่หมวกป้องกันเชื้อ PAPR มีลมเป่าค่อนข้างเย็น ทำให้หายใจง่าย และสามารถทำงานในอากาศร้อนได้ นอกจากนี้ การสวมหน้ากากหรือ Face Shield ทำงาน เมื่ออากาศร้อนจะทำให้เกิดฝ้า หมวกป้องกันเชื้อ PAPR ก็จะช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้

ส่วน นพ.เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า หมวกป้องกันเชื้อ PAPR จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สู่บุคลากรทางการแพทย์ อีกทั้งหมวกป้องกันเชื้อ PAPR ของ กฟผ. ยังมีน้ำหนักเบา คล่องตัวเวลาใช้งาน ไม่มีเสียงรบกวนจากพัดลมทำให้สามารถสื่อสารกับทีมได้ดีขึ้น และแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานทำให้การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นไปได้ดีขึ้น.-สำ​นักข่าว​ไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ เจ็บ 21

รถบัสรับส่งพนักงานพุ่งตกคูน้ำ ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้บาดเจ็บ 21 คน คาดคนขับหลับใน เบื้องต้นยังไม่พบตัว