fbpx

กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่หนุนเร่งคลอดกฎหมายบริการผ่านแอปฯ

กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. – กลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่รายย่อยและรถบ้านที่สนับสนุนแอปพลิเคชันเรียกรถ และประชาชนผู้ใช้บริการ เดินทางมาที่ ก.คมนาคม เพื่อขอให้เร่งผลักดันกฎหมายเรียกรถยนต์ส่วนบุคคลเป็นแท็กซี่ผ่านแอปฯ บังคับใช้โดยเร็ว


นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้กลุ่มผู้ที่เห็นด้วยกับการออกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. …. เข้าพบ ภายหลังกลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่รายย่อยและรถบ้านที่สนับสนุนแอปพลิเคชันเรียกรถ และประชาชนผู้ใช้บริการที่เห็นด้วยกับการออกกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. …. เดินทางมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อขอบคุณและให้กำลังใจ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก ที่ผลักดันการออกกฎหมายให้รถยนต์ส่วนบุคคลสามารถออกมาให้บริการรับจ้างผ่านแอปพลิเคชันได้อย่างถูกกฎหมาย

เนื่องจากสามารถใช้ประโยชน์จากรถยนต์ของตัวเองในการหารายได้ในภาวะผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 และเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนในการใช้บริการ ขณะเดียวกัน ยังให้การช่วยเหลือดูแลกลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะในระบบเดิม เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม ไม่ทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสูญเสียประโยชน์


นายจิรภัทร โสภาลัย ผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ ระบุว่า ที่ผ่านมาได้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ ทั้งแท็กซี่ในระบบ และแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน มาแล้ว โดยยืนยันว่า การให้บริการของรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชันนั้น สร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า และทำให้ผู้ขับรถแท็กซี่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว สะดวกสบาย มีโอกาสทำให้ผู้ขับรถมีรายได้เพิ่มขึ้นหลายเท่า

ดังนั้น การทำให้แท็กซี่ทุกกลุ่มให้บริการผ่านแอปพลิเคชันโดยถูกกฎหมาย จึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ส่วนผู้ประกอบการขับรถแท็กซี่บางกลุ่มที่ยังคัดค้านกฎหมายดังกล่าวอยู่ ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล และทุกคนก็เป็นเพื่อนร่วมอาชีพ ซึ่งอยากแนะนำให้ลองเปิดใจกว้าง ยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำมาพัฒนาอาชีพ ซึ่งเมื่อบริการแท็กซี่ผ่านแอปฯ สามารถดำเนินการได้ถูกต้องตามกฎหมาย มั่นใจว่าจะทำให้ผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่ทุกคนได้ประโยชน์ ที่สำคัญจะสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าและผู้โดยสารด้วย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน