“ชาญศิลป์” มั่นใจออกจากแผนฟื้นฟูได้ภายใน 5 ปี

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.-“ชาญศิลป์” มั่นใจจะนำการบินไทยออกจากแผนฟื้นฟูก่อน 5 ปี ด้านซีเอฟโอการบินไทย ยอมรับหมดรูป สภาพคล่องจะอยู่ไม่ถึงสิ้นปีนี้ ต้องหาเงินไม่ว่าทางไหนมาอุดรูรั่วด่วน! หากไม่มีเงินเข้าต้องขายทรัพย์สินเฉพาะหน้า เอาตึกอาคารสำนักงานใหญ่มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาทค้ำ

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยภายหลังจากที่ ศาลล้มละลายกลางได้เห็นชอบแผนฟื้นฟูการบินไทยว่า หลังจากนี้จะเป็นหน้าที่ของผู้บริหารแผนฟื้นฟู ซึ่งผู้บริหารแผนประกอบไปด้วย นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ,นายพรชัย ฐีระเวช, นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ ,นายไกรสร บารมีอวยชัย และ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร เป็นผู้บริหารแผนซึ่งจะมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารธุรกิจของบริษัทฯ และดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการต่อไป รวมถึง คณะกรรมการเจ้าหนี้ ประกอบไปด้วย ธนาคารกรุงเทพ กระทรวงการคลัง ธนาคารออมสิน สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) และ สหกรณ์ออมทรัพย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำกัด


“หลังจากแผนฟื้นฟูการบินไทยผ่านศาลฯตามขั้นตอนก็เป็นหน้าที่ของผู้บริหารแผนที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งตามขั้นตอนจะมีเวลาฟื้นฟูการบินไทยในเวลา 5 ปี และสามารถต่อได้อีก 2ครั้ง ครั้งละ 1 ปี ดังนั้นผมจะพยายามบริหารแผนฟื้นฟูให้สำเร็จก่อน 5 ปี และก่อนที่จะออกจากแผนฟื้นฟูการบินไทย 2 ปี จะต้องทำกำไรก่อนหักภาษี และค่าใช้จ่าย(EBITDA)เฉลี่ยปีละ 20,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยอมรับว่าการบินไทย ต้องการเงินใหม่เข้ามาเสริมสภาพคล่องการบินไทยอย่างเร่งด่วน ซึ่งจะเข้ามาในรูปแบบเงินกู้ หรือจากทางไหน จะขอให้รายละเอียดอีกครั้ง ”นายชาญศิลป์

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชี การบินไทย กล่าวยอมรับว่า แม้ว่าแผนฟื้นฟูจะผ่านความเห็นชอบแล้ว แต่การบินไทยยังคงต้องการสภาพคล่องเข้ามาอย่างเร่งด่วน แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะมีการปรับลดพนักงาน ปรับโครงสร้างองค์กรไปแล้วก็ตาม เนื่องจากในปัจจุบันสภาพคล่องที่มีอยู่จะมีไม่ถึงสิ้นปี 2564 ดังนั้นทางฝ่ายผู้บริหารแผนฟื้นฟู และ ผู้บริหารจะต้องหาเงินมาเสริมสภาพคล่องเข้ามาซึ่งตามแผนการบินไทยจะต้องใช้เงินกว่า 50,000 ล้านบาท ในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า


ทั้งนี้เงินที่จะมาเสริมสภาพคล่องไม่จำเป็นต้องเป็นเงินก้อนทีเดียวตามแผน จะแบ่งเป็นจากภาครัฐ 25,000 ล้านบาท และ จากเอกชนจำนวน 25,000 ล้านบาท แต่หากยังไม่ได้เงิน การบินไทยก็มีแนวทางคือ กู้เงินระยะสั้นมาก่อนโดยใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่มาค้ำประกัน หรือ ขายทรัพย์สินระดับรองที่ไม่ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์มาเป็นเงินเสริมสภาพคล่อง ซึ่งแนวทางน่าจะเป็นการกู้แล้วเอาทรัพย์สินค้ำประกันซึ่งหากพิจารณาจะพบว่า ที่ตั้งอาคารสำนักงานใหญ่การบินไทย ตั้งอยู่ในทำเลทองและมีพื้นที่มากมูลกว่ารวมกว่า 1หมื่นล้านบาท ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทาง นอกจากพื้นที่ดังกล่าว การบินไทยยังมีอาคารสำนักงานที่สีสม หลานหลวง และ ดอนเมือง รวมถึงสำนักงานที่อยู่ต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ ศาลล้มละลายกลางเห็นชอบแผนฟื้นฟูการบินไทย และนายชาญศิลป์ แถลงข่าวถึงแผนฟื้นฟู และ มีการประชุมบอร์ดการบินไทยต่อนั้น มีรายงานข่าวระบุคาดว่านายชาญศิลป์ จะประกาศลาออกจากตำแหน่ง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารการบินไทยแต่ยังคงดำรงตำแหน่งเป็น 1 ในผู้บริหารแผนฟื้นฟูการบินไทยอยู่.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว