fbpx

พาณิชย์ระบุกาแฟไทยมีโอกาสส่งออกตลาดฮังการี

นนทบุรี 11 มิ.ย. – กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผย “กาแฟไทย” มีโอกาสส่งออกตลาดฮังการี เหตุคนส่วนใหญ่นิยมบริโภคกาแฟ ทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน และตามร้านค้า ชี้แม้จะภักดีต่อแบรนด์ แต่ผู้บริโภคพร้อมทดลองแบรนด์ใหม่ๆ จึงเป็นโอกาสของกาแฟไทย ที่จะบุกเจาะตลาดได้


นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงปูดาเปสต์ ถึงโอกาสในการขยายตลาดส่งออกสินค้ากาแฟของไทยเข้าสู่ตลาดฮังการี เพราะชาวฮังการีส่วนใหญ่นิยมบริโภคกาแฟ ทั้งกาแฟคั่วบด กาแฟพิเศษ และบริโภคทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และตามร้านค้าทั่วไป ทำให้มีร้านกาแฟคุณภาพดีจำนวนมากในกรุงบูดาเปสต์ แต่ผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ชาวฮังการี ต้องกักตัวและทำงานที่บ้านมากขึ้น แต่ก็ยังมีความต้องการบริโภคกาแฟอยู่เหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม มีผลสำรวจชาวฮังการีมีการบริโภคกาแฟที่บ้านเฉลี่ยประมาณ 315 บาทต่อเดือน ส่วนที่ทำงาน ก็มีค่าใช้จ่ายไม่ต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้จ่าย เนื่องจากเป็นสวัสดิการของที่ทำงาน และตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ทำให้ดื่มกาแฟในร้านไม่ได้ แต่สามารถสั่งกลับได้ ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายไม่ต่างกัน และคาดว่า หลังรัฐบาลฮังการีอนุญาตให้ร้านค้าที่มีที่นั่งภายนอกเปิดให้บริการได้ตั้งแต่เม.ย.2564 จะทำให้ยอดขายกาแฟสูงขึ้น สำหรับกาแฟที่ผู้บริโภคนิยม ได้แก่ เมล็ดกาแฟ และกาแฟแคปซูล และยังนิยมกาแฟคั่วบด โดยซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ แต่ก็เริ่มมีการสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับแบรนด์ แต่ก็พร้อมที่จะเปิดรับแบรนด์ใหม่ๆ หากมีรสชาติดี คุณภาพสูง


นางประภา วิชัยขัทคะ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงบูดาเปสต์ กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในฮังการีจำนวนหนึ่ง นิยมลิ้มลองกาแฟยี่ห้อใหม่ๆ และประเภทใหม่ๆ ตามกระแสการบริโภคสากล โดยชาวฮังการีนิยมเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการดื่มกาแฟมากกว่าการดื่มชา มีการนำเข้าเมล็ดกาแฟและผลิตภัณฑ์กาแฟ เป็นลำดับที่ 40 ของโลก มูลค่า 115.825 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากไทยทั้งเมล็ดกาแฟดิบและกาแฟคั่ว มูลค่า 124 ล้านบาท และ 92.7 ล้านบาทในปี 2562 และ 2563 ตามลำดับ

ทั้งนี้ แม้จะส่งออกได้ไม่มาก แต่ก็มีโอกาสในการส่งออก โดยต้องพิจารณาการเพิ่มคุณค่าให้สินค้ากาแฟไทย โดยเน้นไปที่คุณภาพ รสชาติ และอัตลักษณ์ มากกว่าปริมาณ พัฒนากระบวนการแปรรูปให้ได้คุณภาพ สมัครใบรับรองคุณภาพมาตรฐานสินค้าระดับสากล สร้างชื่อเสียงด้วยการส่งประกวด และพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์กาแฟ และผู้ส่งออกไทย อาจพิจารณาช่องทางการขายผ่านผู้จัดจำหน่ายภายในประเทศที่จัดส่งสินค้าเข้าห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ซึ่งจะทำให้กาแฟไทยเข้าสู่ตลาดฮังการีได้เพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กโจ๊ก” ถอนคำร้องเอาผิด “เศรษฐา” อ้างไม่ติดใจแล้ว

“บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช. ขอถอนคำร้องเอาผิด “นายกฯ เศรษฐา” กรณีปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ม.157 อ้างไม่ติดใจดำเนินคดีแล้ว

ครม.ฉลุยหลักการดิจิทัล วอลเล็ต

นายกฯ นำ รมต.แถลงยืนยันทุกพรรคเห็นชอบหลักการของโครงการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท พร้อมถามกฤษฎีกา ประเด็นอำนาจหน้าที่ ธ.ก.ส.

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่