ภาคอุตฯ ดันเอ็มพีไอ เดือน เม.ย.โต 18.46%

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – ภาคอุตฯ ดันเอ็มพีไอเดือนเม.ย.โต 18.46% กำลังการผลิตที่ 59.58% หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจก้าวผ่านวิกฤต


นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เปิดเผยว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมดือนเม.ย.2564 อยู่ที่ระดับ 91.88 ขยายตัว 18.46% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ฐานต่ำอยู่ในระดับ 77.57 เนื่องจากเดือนเม.ย.ปีก่อนผู้ผลิตรายหลายมีการหยุดผลิตชั่วคราว ตามประกาศล็อกดาวน์ในประเทศของรัฐบาล ทำให้เกิดผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบแรก

ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 59.58% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 50.90% สะท้อนแนวโน้มภาคการผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น ตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้นตามลำดับ เห็นได้จากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเดือนเม.ย.2564 มีมูลค่ารวม 21,429 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 45.69% ซึ่งเป็นการขยายตัว สูงสุดในรอบ 36 เดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค.2561


“เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้นจากความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในหลายประเทศ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการผลิตและการบริโภคมากขึ้น”นายทองชัย กล่าว

โดยอุตสาหกรรมที่ขยายตัวในเดือนเม.ย.2564 ได้แก่ รถยนต์และเครื่องยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 288.06% จากรถปิกอัพ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก และเครื่องยนต์ดีเซล เป็นหลัก เทียบกับปีก่อนผู้ผลิตหลายรายต้องหยุดผลิตชั่วคราว หลังการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ เบียร์ขยายตัว 515.18% เนื่องจากสงกรานต์ปีนี้ไม่มีมาตรการล็อกดาวน์ประเทศ แม้ว่าจะมีการควบคุมในบางพื้นที่

เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน ขยายตัว 57.38% ผู้ผลิตมีการพัฒนาสินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการและจัดรายการส่งเสริมการขายกระตุ้นการจำหน่ายในประเทศให้เพิ่มขึ้น ประกอบกับสถานการณ์ของประเทศคู่ค้าหลักเริ่มคลี่คลายทำให้การดำเนินการส่งออกกลับมาเป็นปกติหลังจากการปิดช่องทางขนส่ง


เหล็กและเหล็กกล้าขั้นมูลฐาน ขยายตัว 29.23% จากเหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กเคลือบสังกะสี และเหล็กเส้นข้ออ้อยเป็นหลัก เทียบกับปีก่อนลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อตามความต้องการใช้หดตัว รวมทั้งมีผู้ผลิตบางรายหยุดผลิตชั่วคราวในปีก่อน

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่าเดือนเม.ย.ปีที่แล้วเป็นช่วงที่เกิดผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 มากที่สุด จากทิศทางเศรษฐกิจของโลกที่ดีขึ้น สะท้อนได้จากตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้นในระดับสูง ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มภาคการผลิตของประเทศเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตภาพรวมและไม่กระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

“ภาคการผลิตอุตสาหกรรมยังคงสามารถดำเนินการได้อย่างปกติ และเศรษฐกิจของไทยมีแนวโน้มดีขึ้นตามทิศทางการส่งออกที่ดีขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าภาคอุตสาหกรรมจะยังคงขยายตัวได้ตามเป้าหมาย ดังนั้นในช่วงนี้ภาคการผลิตอุตสาหกรรมและการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจึงถือว่าเป็นกลจักรสำคัญที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวข้ามผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปได้”นายสุริยะ กล่าว . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง