เมืองไทยประกันชีวิตลดเวลาไม่คุ้มครองกรณีประกันโควิดเหลือ 14 วัน

กรุงเทพฯ 31 พ.ค.-บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตลดระยะเวลาไม่คุ้มครองกรณีการเจ็บป่วยที่เป็นผลมาจากการติดเชื้อโควิด 19 จากเดิม 30 วัน เหลือ 14 วันนับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติม สร้างความมั่นใจผู้เอาประกันในสถานการณ์โควิดยังแพร่ระบาดอยู่


นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทฯ ได้ปรับลดระยะเวลาที่ไม่คุ้มครองกรณีการเจ็บป่วยที่เป็นผลมาจากการติดเชื้อโควิด 19 จากเดิม 30 วัน เหลือ 14 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติม สำหรับความคุ้มครองกลุ่มค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายวัน ที่มีวันเริ่มมีผลคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม -31 ธันวาคม 2564

ทั้งนี้ การปรับลดระยะเวลาที่ไม่คุ้มครองดังกล่าว จะครอบคลุมลูกค้ารายบุคคลที่มีความคุ้มครองกลุ่มค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน กลุ่มค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก และกลุ่มชดเชยรายวัน ที่แนบท้ายกรมธรรม์ประกันชีวิตประเภทสามัญ และประเภทควบการลงทุน โดยบริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองสำหรับการเจ็บป่วยจากโรคโควิด 19 ที่เกิดขึ้นหลังจากระยะเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติม หรือหากมีการต่ออายุสัญญาเพิ่มเติมให้นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามการต่ออายุนั้นครั้งสุดท้ายแล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นหลังสุดอย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะยกเว้นความคุ้มครอง กรณีที่ผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยจากการติดเชื้อ ที่ยังไม่ได้รักษาให้หาย ก่อนวันที่เริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ หรือบันทึกสลักหลังการรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก โดยพิจารณาตามเงื่อนไขสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย


“การปรับลดระยะเวลาที่ไม่คุ้มครองถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สร้างความมั่นใจและอุ่นใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ที่โรคโควิด 19 ยังแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ หลังจากที่ก่อนหน้าได้มอบความคุ้มครองพิเศษ ด้วยการขยายความคุ้มครองผลกระทบหลังจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19  ฟรี สำหรับลูกค้าที่มีความคุ้มครองกลุ่มค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน กลุ่มค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก และกลุ่มชดเชยรายวัน ที่แนบท้ายกรมธรรม์ประกันชีวิตประเภทสามัญ และประเภทควบการลงทุน รวมถึงประเภทประกันกลุ่มเพียงลูกค้ามีกรมธรรม์ตามที่บริษัทฯ กำหนดและยังมีผลคุ้มครองอยู่”นายสาระ กล่าว-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่