สมาคม รพ.เอกชน ยังไม่ชี้ชัดช่วงเวลาเริ่มฉีด โมเดอร์นา

กรุงเทพฯ 31 พ.ค.- สมาคม รพ.เอกชน ยังไม่ชี้ชัดช่วงเวลาบริการเริ่มฉีด “โมเดอร์นา”ต้องรอคำตอบทั้งเรื่องปริมาณ –เวลา ที่ตัวเทนนำเข้าจะนำเข้าจากสหรัฐได้ และ ราคาทีกำหนดโดย  องค์การเภสัชกรรม


         นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) ในฐานะนายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นาว่า   ยังไม่สามาถชี้ชัดว่า จะสามารถเริ่มทำการเปิดรับจองได้ เมื่อใด ต้องรอทุกอย่างชัดเจนเรียบกร้อย ดังนั้น ปัจจุบันยังไม่สามารถทำการเปิดรับจองและทำการตลาด โฆษณาเกี่ยวกับการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นาแต่อย่างได

        นพ.เฉลิม กล่าวว่า ปัจจัยที่ต้องเรียบร้อยต้องรอทั้งกรณี  บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนของโมเดอร์นาในไทย จะสามารถนำเข้าได้เมื่อใด และ การรอราคาวัคซีนนั้น ซึ่งในสัปดาห์นี้คาดว่าทางองค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะมีการสรุปราคารวมค่าขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ ซึ่งจะเป็นราคาต้นทุนที่ อภ.จะสั่งซื้อจากทางตัวแทนจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นา และราคาที่จะขายให้กับทางโรงพยาบาลเอกชน  โดย อภ.จะมีการประชุมเรื่องราคาขายวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นาภายในสัปดาห์นี้ก่อนจะการประกาศออกมา


         ในขณะเดียวกันรับทราบว่า สัปดาห์นี้ทางบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนของโมเดอร์นาในไทยจะขอเข้าพบ รัฐมนรตรีช่วยกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯที่จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยในอีก 1-2 วันนี้ เพื่อเจรจาขอแบ่งวัคซีนของโมเดอร์นาในสหรัฐฯที่มีปริมาณในสตอกเหลืออยู่ค่อนข้างมาก มาจำหน่ายให้กับประเทศไทย  คงต้องรอความชัดเจนทั้งปริมาณและช่วงเวลาที่ทางตัวแทนจำหน่ายวัคซีนโมเดอร์นา คือ บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด จะสามารถเริ่มนำเข้าวัคซีนในล็อตแรกได้เมื่อใด
         สำหรับอัตราการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา โรงพยาบาลเอกชนจะให้บริการกับประชาชนนั้น ยังยืนยันว่าจะเป็นอัตราการให้บริการในอัตราเดียวกัน  โดยมองว่าการให้บริการวัคซีนถือเป็นการช่วยเหลือภาครัฐในการกระจายวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด และวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นสินค้าควบคุมชนิดหนึ่ง ซึ่งจะต้องมีการคิดราคาขายในราคาเดียวกันไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลระดับใดก็ตาม รวมถึงค่าประกันภัยโควิด-19 ก็จะคิดในอัตราเดียวกันเช่นเดียวกัน –สำนักขาวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

วัดอรุณฯ เนืองแน่น นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงานลอยกระทง

นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแน่นวัดอรุณฯ ร่วมงานประเพณีลอยกระทง 2567 “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” มีน้องหมูเด้ง Thai Cuteness นำนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรม นางสาวไทย(ดินสอสี) ชวนรำวงลอยกระทง 6 ภาษา ผลักดันเทศกาลไทยสู่ World Event หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

ข่าวแนะนำ

ซูเปอร์มูน

ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้

หารือสีจิ้นผิง

นายกฯ หารือ “สี จิ้นผิง” ขยายความร่วมมือการค้า-ลงทุน

นายกรัฐมนตรี หารือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น พร้อมแลกเปลี่ยนการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนสองประเทศ พร้อมอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากปักกิ่งประดิษฐานท้องสนามหลวง