fbpx

สมาคมธนาคารไทย ตั้งเป้าสินเชื่อฟื้นฟูเฟสแรก 1 แสนล้านบาท


กรุงเทพฯ 25 พ.ค. – สมาคมธนาคารไทย เร่งขับเคลื่อนมาตรการเพิ่มสภาพคล่อง ตั้งเป้าสินเชื่อฟื้นฟู 6 เดือนแรก 1 แสนล้านบาท เผยอีก 2 อาทิตย์ เห็นยอดอนุมัติสินเชื่อพุ่ง จับมือ กกร. เดินหน้าช่วยผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ที่ยังเข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือ พร้อมหาข้อสรุปแนวทางช่วยเพื่อก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน ย้ำธนาคารตระหนักถึงปัญหาและต้องการช่วยลูกหนี้อย่างเร่งด่วนและทั่วถึงต้องการให้เป็นการฟื้นฟูกิจการเพื่อที่ลูกหนี้จะได้ไปต่อในระยะยาว


หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมธนาคารไทย ออกมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบการธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 มีผลเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2564 ซึ่งธนาคารสมาชิกแต่ละแห่งได้ขานรับนโยบายและดำเนินการจัดทำแพ็กเกจการช่วยเหลือ การออกแบบ Product Program เพื่อให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม การเข้าไปพูดคุยกับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ตรงกับโจทย์ความเดือดร้อนของลูกค้า จะได้ช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด อีกทั้งมีการปรับกระบวนการขั้นตอนการทำงานเพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็ว

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกได้ตระหนักถึงปัญหาและความเร่งด่วนที่จะต้องช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนให้ได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมผู้ประกอบการทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs รายกลางและรายเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบแต่ยังมีศักยภาพ ไม่สามารถเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือ จึงหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือ โดยร่วมมือกับ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) โดยขอให้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รวบรวมรายชื่อข้อมูลของผู้ประกอบการที่สนใจขอสินเชื่อฟื้นฟูเพื่อเสริมสภาพคล่องและหาแนวทางข้อสรุปในการช่วยเหลือแต่ละราย ซึ่งสมาคมธนาคารไทยจะได้ส่งต่อให้กับธนาคารสมาชิกต่อไป


“สิ่งสำคัญเร่งด่วนในตอนนี้ คือการทำให้ผู้ประกอบการที่เข้าเงื่อนไขและมีศักยภาพเข้าถึงมาตรการสนับสนุนทางการเงิน ตอบโจทย์ตามความต้องการสภาพคล่องได้อย่างทั่วถึง ตรงจุด และทันเวลากับสถานการณ์ ทั้งหมดจึงเป็นภารกิจเชิงรุกที่ลดความบอบช้ำทางเศรษฐกิจ ช่วยเสริมสภาพคล่องควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกค้าธุรกิจ ร่วมกับความช่วยเหลืออื่นๆของแต่ละธนาคารที่ออกแบบมาเพื่อบรรเทาปัญหาให้ภาคธุรกิจสามารถประคับประคองกิจการต่อไปได้ และเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการพลิกฟื้นกิจการเมื่อสถานการณ์การระบาดของโควิดเริ่มคลี่คลายเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ระยะฟื้นตัวต่อไป” นายผยงกล่าว

อย่างไรก็ตาม นายผยง ศรีวณิช กล่าวว่า แม้ระยะเวลาที่เปิดให้ความช่วยเหลือกับผู้ประกอบการไม่นานนัก เพียงแค่ 3 สัปดาห์ ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อฟื้นฟูไปแล้ว 15,000 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการ SMEs 5 พันกว่าราย ซึ่งจำนวนนี้ เป็นการช่วยเหลือเอสเอ็มอีรายเล็กที่มีวงเงินสินเชื่อเดิมกับธนาคาร ทั้งรายเล็ก กลาง และใหญ่ ครอบคลุมทุกธุรกิจทั่วประเทศ และขณะนี้ ธนาคารต่างๆ กำลังเร่งพิจารณาคำขออนุมัติสินเชื่อที่สามารถเข้าร่วมโครงการสินเชื่อฟื้นฟูของ ธปท. ได้ คาดว่าภายใน 2 อาทิตย์นี้จะเห็นยอดตัวเลขสินเชื่อฟื้นฟูเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นไปตามเป้า 1 แสนล้านบาท ใน 6 เดือนแรก

นอกจากมาตรการสินเชื่อฟื้นฟูแล้ว ยังมีอีกมาตรการที่ผู้ประกอบการธุรกิจให้ความสนใจอย่างมาก คือ โครงการพักทรัพย์พักหนี้ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ปรกอบธุรกิจสามารถหยุดการดำเนินกิจการชั่วคราว เพื่อรอเศรษฐกิจฟื้นตัวโดยไม่สูญเสียกิจการไป แต่เนื่องจากการให้ความช่วยเหลือนี้เป็นเรื่องใหม่ มีรายละเอียดเงื่อนไขเฉพาะธนาคาร มีกระบวนการค่อนข้างซับซ้อน ต้องอาศัยความเข้าใจและความเห็นชอบของลูกหนี้และเจ้าหนี้ อีกทั้งยังมีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับภาษี ค่าธรรมเนียมในการโอนทรัพย์เพื่อพักชำระหนี้ ซึ่งต้องอาศัยระเบียบวิธีการปฏิบัติต่างๆ


“ขณะนี้ ธนาคารแต่ละแห่งกำลังดำเนินการในเรื่องของความชัดเจนแนวทางปฏิบัติ เช่น เรื่อง ภาษี ค่าธรรมเนียมการโอนเพื่อให้ถูกต้อง คาดว่าอีกไม่นานจะเห็นผู้ประกอบการ เช่น กลุ่มโรงแรม หรือกลุ่มธุรกิจการผลิตที่มีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างมาเป็นหลักประกัน ที่ยื่นขอเข้าโครงการนี้ทันท่วงที” นายผยงกล่าว

นอกจากนี้ นายผยง กล่าวว่า จากการเรียนรู้ปัญหาและข้อจำกัดต่างๆที่เกิดขึ้นในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือรอบแรก ดังนั้น สมาคมธนาคารไทย เตรียมการและมีกลไกเพื่อเข้ามาช่วยการขับเคลื่อนมาตรการ ตั้งแต่การสื่อสารในทุกช่องทาง การให้ความรู้และทำความเข้าใจกับพนักงานธนาคารเพื่อตอบโจทย์กับผู้ที่สงสัย รวมถึงการเข้าไปพูดคุยกับลูกหนี้ปัจจุบันและลูกค้าที่สนใจจะเข้ามาขอรับความช่วยเหลือด้วย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

จับตา ครม.เศรษฐา 2 โผเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์

จับตา “ครม.เศรษฐา 2” โผเพื่อไทยเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์ รอตรวจสอบประวัติว่าที่รัฐมนตรี “สุทิน-หมอชลน่าน-ไชยา-เกรียง” ส่อหลุดเก้าอี้ ด้าน “ธรรมนัส” ยันโควตา พปชร. อีก 1 ตำแหน่ง เป็นของ “ไผ่ ลิกค์”

“ดาว บ้านดอน” ลูกทุ่งดัง ล้มในห้องน้ำ

“ดาว บ้านดอน” วัย 76 ปี เจ้าของผลงานเพลงดัง ประสบอุบัติเหตุล้มในห้องน้ำ ล่าสุดลุกนั่งได้ ลืมตาได้ และรู้สึกตัวดี แต่ยังไม่สามารถพูดได้

“บิ๊กต่าย” เซ็นให้ “บิ๊กโจ๊ก-4 ลูกน้อง” ออกจากราชการไว้ก่อน

รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” พร้อมลูกน้องอีก 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกดำเนินคดีอาญา

แพทย์ห่วง ด.ต.ปิยนันท์ มีเลือดคั่งในสมอง

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขอบคุณประชาชน เปิดทางเคลื่อนย้าย ด.ต.ปิยนันท์ รักษา รพ.ตำรวจ ขณะที่แพทย์รับห่วง พบยังมีเลือดคั่งในสมอง เตรียมผ่าตัดสมองซ้ำนำเลือดที่คั่งออก