fbpx

คมนาคมย้ำยังไม่เปิดฉีดวัคซีน walk in สถานีกลางบางซื่อ

กรุงเทพฯ 24 พ.ค.- กระทรวงคมนาคม แจ้งเปิดฉีดวัคซีนวันแรก 24 พ.ค. ที่สถานีกลางบางซื่อ เฉพาะผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชน ย้ำยังไม่เปิด walk in ให้เข้ามาฉีดโดยตรง


นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดคมนาคมแจ้งว่า ในวันนี้ (24 พ.ค.)ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเป็นวันแรกที่ให้บริการเฉพาะองค์กร ผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชน และผู้ที่ได้รับการยืนยัน ทางข้อความเป็นการฉีดวัคซีนแก่พนักงานที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในระบบคมนาคมขนส่ง ทั้งทางบก น้ำ ราง และอากาศ เนื่องจากเป็นบุคลากรกลุ่มเสี่ยง ซึ่งมีโอกาสเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และอาจจะแพร่ระบาดไปสู่ผู้ใช้บริการอื่น

อย่างไรก็ตามเมื่อเช้าที่ผ่านมามีประชาชนเข้าใจผิด โดยมีผู้ walk in เข้ามาจำนวนมาก ซึ่งในขณะนี้ ตามนโยบายของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. ยังไม่เปิดให้มีการ walk in มาฉีดวัคซีน แต่อย่างใด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงคมนาคมได้ส่งรายชื่อมาทั้งหมดประมาณ 3​00,000 คน โดยจะดำเนินการฉีดวัคซีนจำนวน 6​0,000 คน ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ​ (สถานีกลางบางซื่อ) ซึ่งในจำนวนดังกล่าว รวมผู้ให้บริการรถแท็กซี่​ รถจักรยานยนต์สาธารณะ (มอเตอร์ไซค์วิน) รถตุ๊กตุ๊ก รถโดยสารประจำทาง ผู้ให้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นแล้ว ฯลฯ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ช่วงเวลา​ 09.00-20.00 น. เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถรองรับให้บริการการฉีดวัคซีนได้วันละประมาณ 10,000 คน

อย่างไรก็ตาม สถานีกลางบางซื่อ ถือเป็นสถานที่ที่มีความพร้อม มีขนาดใหญ่ ช่วยลดความแออัดจากสถานพยาบาลต่างๆ ได้ ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดด้วย และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนด้วย สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อนั้น จะสามารถเปิดให้บริการ แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ 1.ช่วงรองรับองค์กร หน่วยงานที่ดูแลประชาชน บุคลากรของกระทรวงคมนาคม และผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ หน่วยงานในสังกัด ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม-6 มิ.ย. 2564 และ 2.เริ่มดําเนินการสําหรับประชาชน 7 มิถุนายน – ธันวาคม 2564 โดยรองรับได้วันละประมาณ 10,000 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มองค์กร วันละประมาณ 3,000 คน, 2.กลุ่มประชาชน On site ณ จุดบริการ วันละประมาณ 2,000 คน และ 3.กลุ่มที่ลงทะเบียนผ่านเครือข่ายมือถือ (AIS, DTAC, TRUE) และแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม วันละประมาณ 5,000 คน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เชิญ 4 ธนาคารใหญ่ ถกลดดอกเบี้ยบ้านกลุ่มเปราะบาง

นายกฯ เชิญผู้บริหาร 4 ธนาคารใหญ่ เข้าหารือ ขอให้ทั้ง 4 ธนาคาร ช่วยลดราคาดอกเบี้ยเงินกู้บ้านให้กับประชาชน ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เผยส่งชื่อรัฐมนตรีให้นายกฯ พิจารณาแล้ว

สถานการณ์ชายแดนแม่สอดยังไม่น่าไว้วางใจ มีเสียงปืน-ระเบิดจากฝั่งเมียนมา

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ยังไม่น่าไว้วางใจ หลังเช้านี้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดจากการปะทะของกองกำลังกะเหรี่ยงกับทหารเมียนมา ดังขึ้นในรอบ 3 วัน ขณะที่บ่ายนี้ (23 เม.ย.) รมว.ต่างประเทศ เตรียมลงพื้นที่

เฮลิคอปเตอร์กองทัพเรือมาเลเซียชนกันกลางอากาศ-ดับแล้ว 10

กองทัพเรือมาเลเซียกล่าวในแถลงการณ์ว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำ ชนกันกลางอากาศในระหว่างการฝึกซ้อมสำหรับการแสดงในขบวนพาเหรดของกองทัพเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย

ยัน รบ.ไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ไม่ทำให้ขาดสภาพคล่อง

“จุลพันธ์” ยันรัฐบาลไม่ได้กู้เงิน ธ.ก.ส. ใช้ดิจิทัลวอลเล็ต แต่เป็นกลไกงบประมาณ มั่นใจไม่ทำ ธ.ก.ส.ขาดสภาพคล่อง บอก อย่าลืมรัฐถือหุ้น100% พัฒนา “ซูเปอร์แอปฯ” ใช้งบประมาณไม่ถึงพันล้าน