เปิดยอดฉีดวัคซีนบุคลากรด่านหน้า คมนาคม-ขนส่ง มีกว่า 3 แสนคน

กรุงเทพฯ 20 พ.ค.-กระทรวงคมนาคม เปิดตัวเลข “คนด่านหน้า” คมนาคม-ขนส่งทั่วไทย “บก-น้ำ-ราง-อากาศ” กว่า 3.22 แสนคน “ศักดิ์สยาม” เตรียมควง “อนุทิน” ลงพื้นที่สถานีกลางบางซื่อพรุ่งนี้ (21 พ.ค. 64) ตรวจความพร้อมจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล ดีเดย์ทยอยฉีดบางส่วนตามยอดลงทะเบียน 24-31 พ.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (21 พ.ค. 2564) เวลา 08.30 น. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาลที่สถานีกลางบางซื่อ ร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะกรรมการอำนวยการบริหารศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ คณะกรรมการดำเนินงานฯ ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ด้วย


สำหรับในการลงพื้นที่ดังกล่าว จะมีการตรวจความพร้อมพื้นที่ ทั้งบริเวณจุดชั่งน้ำหนัก วัดความดัน จุดลงทะเบียน เซ็นใบยินยอม จุดฉีดวัคซีน จุดพักรอสังเกตอาการ 30 นาที ทั้งนี้ ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาลที่สถานีกลางบางซื่อนั้น เป็นไปตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ในการเร่งฉีดวัคซีนแก่พนักงานที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในระบบคมนาคมขนส่งทั้งหมด ครอบคลุมทั้งทางบก น้ำ ราง และอากาศ เนื่องจากเป็นบุคลากรกลุ่มเสี่ยง และมีโอกาสเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และอาจจะแพร่ระบาดไปสู่ผู้ใช้บริการอื่นได้

โดยนายศักดิ์สยาม จึงได้นำเสนอให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จัดสรรวัคซีนโควิด-19 เพื่อนำมาฉีดให้กับพนักงานด่านหน้าในระบบการคมนาคมขนส่ง พร้อมทั้งสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่ให้บริการการขนส่ง จัดรายชื่อพนักงานด่านหน้าฯ และจำนวน ที่จะต้องเร่งฉีดวัคซีน ก่อนจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24-31 พ.ค. 2564 ที่สถานีกลางบางซื่อ เพื่อลดการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดการแพร่ระบาด และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการระบบคมนาคมขนส่ง


รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุอีกว่า จากข้อมูลเบื้องต้น พบว่า มีพนักงานด่านหน้าภาคการขนส่ง ทั้งทางบก น้ำ ราง และอากาศของแต่ละหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระยะเร่งด่วน (กลุ่มเสี่ยงสูง) ประมาณ 322,855 คน โดยมีทั้งฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ ในวันที่ 24-31 พ.ค. 2564 รวมถึงหน่วยงานนั้นๆ ได้ประสาน สธ. เพื่อไปดำเนินการฉีดแล้ว อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นของจำนวนตัวเลขนั้น อาจมีบางคนไม่ประสงค์จะฉีดวัคซีนรวมอยู่ด้วย

ทั้งนี้ ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้รวบรวมรายชื่อเจ้าหน้าที่ ที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 ระยะเร่งด่วน ซึ่งประสงค์จะฉีดวัคซีน ในส่วนกลางกรุงเทพมหานคร และสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 ทั้งหมด จำนวน 1,200 คน ได้แก่ 1.ฝ่ายทะเบียน 589 คน 2.ฝ่ายตรวจภาพ 103 คน 3.ฝ่ายใบอนุญาตขับรถ 115 คน 4.กองตรวจการขนส่งทางบก 122 คน และเจ้าที่ด้านงานบริหารและวิชาการ ซึ่งดูแลประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนที่เข้ามาติดต่อที่สำนักงาน 271 คน

ขณะที่ในส่วนภูมิภาค รวม 3,568 คน ได้แก่ 1.ฝ่ายทะเบียน 982 คน 2.ฝ่ายตรวจภาพ 497 คน 3.ฝ่ายใบอนุญาตขับรถ 636 คน 4.ฝ่ายตรวจการ 81 คน 5.เจ้าหน้าที่ด้านงานบริหารและวิชาการ ซึ่งดูแลประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนที่เข้ามาติดต่อที่สำนักงาน 1,365 คน นอกจากนี้ เมื่อดูข้อมูลของกลุ่มสถิติการขนส่ง กองแผนงาน ขบ. ถึงจำนวนใบอนุญาตขับรถ และใบอนุญาตผู้ประจำรถ จำแนกตามประเภทใบอนุญาต (ณ วันที่ 30 เม.ย. 2564) จากทั่วประเทศ รวม 280,972 คนแบ่งเป็น ผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ จำนวน 101,231 คน, ใบอนุญาตขับรถยนต์สามล้อสาธารณะ จำนวน 7,589 คน และใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ จำนวน 172,152 คน


ด้านองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 12,000 คน ซึ่งจะเป็นพนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสาร และพนักงานประจำท่าปล่อยรถ ส่วนพนักงานของบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) ในเบื้องต้นมีพนักงานและผู้ประกอบการรถร่วมฯ แจ้งความประสงค์ขอรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วประมาณ 2,800 คน ขณะที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีพนักงานด่านหน้าฯ จำนวนประมาณ 1,100 คน ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานเก็บค่าผ่านทาง และส่วนอื่นๆ ด้วย

ในส่วนของกรมทางหลวง (ทล.) ได้รวบรวมรายชื่อพนักงาน ที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 ระยะเร่งด่วน จำนวน 1,002 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าว เป็นยอดรวมทั้งหมด แต่อาจมีบางคนไม่ประสงค์จะฉีดวัคซีน ได้แก่ 1.ฝ่ายจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง จำนวน 775 ราย ประกอบด้วย ผู้จัดการด่าน 16 ราย, รองผู้จัดการด่าน 96 ราย, พนักงานจัดเก็บ 582 ราย, พนักงานควบคุมบัตร 81 ราย 2.หน่วยกู้ภัย จำนวน 145 ราย ประกอบด้วย นักปฏิบัติการกู้ภัย 5 ราย, พนักงานกู้ภัย 140 ราย และ 3.กลุ่มตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์ จำนวน 82 ราย

นอกจากนี้ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้เสนอรายชื่อพนักงาน ที่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 ไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว เป็นบุคลากรส่วนกลางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 1,600 คน โดยจะเป็นกลุ่มบุคคลเสี่ยงสูง เนื่องจากมีการสัมผัสกับประชาชนเป็นจำนวนมาก เช่น เจ้าหน้าที่บริเวณด่านชั่งน้ำหนัก, เจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์, เจ้าหน้าที่เดินเอกสาร, พนักงานขับรถ รวมถึงพนักงาน ทช. ที่เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่โดยรถขนส่งสาธารณะ เป็นต้น

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม ระบุต่ออีกว่า ด้านระบบรถไฟฟ้าของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีกลุ่มเสี่ยงสูง จำนวนประมาณ 1,000 คน โดยในจำนวนดังกล่าว จะรวมพนักงานของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ที่ปฏิบัติงานในสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วงด้วย ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 5,683 คน ประกอบด้วย พนักงานประจำขบวนรถ พนักงานประจำสถานี คนขับรถไฟ และตำรวจรถไฟ ในส่วนบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ จำนวน 700 คน

นอกจากนี้ ภาคการขนส่งทางน้ำนั้น กรมเจ้าท่า (จท.) ที่ดูแลกำกับเรือโดยสาร ได้รายงานว่า มีจำนวนกลุ่มเสี่ยงสูงที่ควรได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมประมาณ 2,312 คน แบ่งเป็น ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าส่วนกลาง จำนวน 1,200 คน ขณะที่ พนักงานเรือคลองแสนแสบ จำนวน 203 คน, พนักงานเรือด่วนเจ้าพระยา จำนวน 184 คน, พนักงานท่าเรือข้ามฟาก จำนวน 143 คนและนักเรียนศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี จำนวน 582 คน

ในส่วนของการขนส่งทางอากาศนั้น กรมท่าอากาศยาน (ทย.) มีพนักงานที่ควรได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 654 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจอาวุธ เจ้าหน้าที่คัดกรองผู้โดยสาร และประชาสัมพันธ์ ขณะที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ระบุว่า จำนวน มีพนักงานของ ทอท. และลูกจ้าง ทอท. ที่เป็นด่านหน้าฯ รวมทั้ง 6 ท่าอากาศยานที่อยู่ในการกำกับดูแล และสำนักงานใหญ่ รวม 8,264 คน แบ่งเป็น พนักงาน 6,250 คน และลูกจ้าง 2,014 คน ทั้งนี้ เมื่อแยกแต่ละท่าอากาศยานนั้น ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวม 3,421 คน แบ่งเป็น พนักงาน 2,451 คน ลูกจ้าง 970 คน, ท่าอากาศยานดอนเมือง รวม 1,496 คน แบ่งเป็น พนักงาน 1,088 คน ลูกจ้าง 408 คน

ขณะที่ ท่าอากาศยานภูเก็ต รวม 973 คน แบ่งเป็น พนักงาน 651 คน ลูกจ้าง 322 คน, ท่าอากาศยานเชียงใหม่ รวม 463 คน แบ่งเป็น พนักงาน 310 คน ลูกจ้าง 153 คน, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย รวม 245 คน แบ่งเป็น พนักงาน 174 คน ลูกจ้าง 71 คน, ท่าอากาศยานหาดใหญ่ รวม 316 คน แบ่งเป็น พนักงาน 266 คน ลูกจ้าง 90 คน และสำนักงานใหญ่ ทอท. รวม 1,359 คน แบ่งเป็น พนักงาน 1,340 คน ลูกจ้าง 19 คน ทั้งนี้ พนักงานและลูกจ้างของ ทอท. ส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายรักษาความปลอดภัย, ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย, ฝ่ายบริการท่าอากาศยาน, ฝ่ายปฏิบัติการเขตการบิน, ฝ่ายวิศวะและบำรุงรักษา, ฝ่ายมาตรฐานท่าอากาศยายและชีวอนามัย, ฝ่ายบริหารการขนส่งสาธารณะ, ฝ่ายบริหารการขนส่งสินค้าทางอากาศ และฝ่ายไฟฟ้าและเครื่องกล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

“บ้านหนองจาน” วุ่น เขมรบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่ทหารไทย

สระแก้ว 25 ส.ค. – ชายแดนสระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนาม-ปาของใส่เจ้าหน้าที่ ในพื้นที่บ้านหนองจาน ทหารไทยเจ็บ 1 นาย ด้านกองทัพภาคที่ 1 แจงเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา สถานการณ์บริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงเกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากทางฝั่งกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย เรียกระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันยังพื้นที่พิพาทติดแนวชายแดน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ และที่ดินของกัมพูชา เข้าร่วมอยู่ในพื้นที่ด้วย เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึง เกิดเหตุเหตุจราจลขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนพากันบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำ นอกจากนี้ ยังมีการขว้างปาสิ่งของเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประชาชนจากฝั่งกัมพูชายังคงทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้บรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น ด้านกองกำลังทหารไทยจึงได้เสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่เพื่อควบคุมสถานการณ์และป้องกันการบานปลาย ที่น่าสังเกตคือ ฝั่งกัมพูชาได้เปิดเพลงเสียงดังสนั่น คาดว่าเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น เสียงเพลงดังกล่าวได้ถูกเปิดก้องไปทั่วบริเวณแนวชายแดน สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ สถานการณ์ล่าสุดยังคงมีการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย โดยทหารไทยยังคงตรึงกำลังแน่นหนา เพื่อเฝ้าระวังการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับส่วนกลางเพื่อรายงานความคืบหน้าและเตรียมมาตรการรองรับ กองทัพภาคที่ 1 แจงแล้ว ปมชาวบ้านเขมรรื้อรั้วหนาม ล่าสุด กองทัพภาคที่ […]

ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ

สวีเดน 25 ส.ค.-ไทย-สวีเดน ลงนามซื้อ “กริพเพน” เฟสแรก 4 ลำ “มาริษ-ผบ.ทอ.” ร่วมเป็นสักขีพยาน ชูเป็นเขี้ยวเล็บป้องกันตัว พ่วง Offset Policy พัฒนาอุตสาหกรรม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 17.20 น. ตามเวลาในประเทศไทย รัฐบาลไทยและสวีเดน ได้บรรลุข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,500 ล้านบาท โดยมี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.พอล ยอนซอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน ร่วมเป็นสักขีพยาน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีว่า ข้อตกลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเสริมสร้าง “เขี้ยวเล็บ” […]

มทภ.2 ชี้หากพบกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้

เกษตรศาสตร์ 25 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ชี้หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำ-ลอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ แต่ยิงแจ้งเตือนก่อน หากยังขัดขืนสั่งยิงทันที เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี มองหากกัมพูชาไม่รับเงื่อนไขเก็บทุ่นระเบิด เตรียมเก็บหลักฐานฟ้อง UN วันนี้ (25 ส.ค. 68) ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย – กัมพูชา (RBC) ในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากฝ่ายกัมพูชาไม่ตกลงที่จะเก็บกู้ทุ่นระเบิด ว่า ถ้าไม่เก็บกู้ก็จะรายงานไปที่ UN และทำบันทึกไว้เพื่อเป็นการประท้วง ส่วนการประชุม RBC ที่พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีการตอบรับเรื่องเก็บกู้ระเบิดร่วมกัน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ควรจะมีการตอบรับด้วยหรือไม่เพื่อแสดงถึงความจริงใจ นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งออกโฉนดให้ชาวบ้านหนองจาน

สรแก้ว 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านหนองจานโดยเร็ว พร้อมส่งทีมสำรวจ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดนให้แล้วเสร็จ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีปัญหาของที่ดินบ้านหนองจาน พร้อมให้ประชาชนแสดงการยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดิน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนดให้กับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านกุดผือ ที่มีที่ดินอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตแดนที่ 46-47 เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โดยเร็ว โดยมีชาวบ้านนำเอกสารสิทธิ น.ส.2 สค.1 น.ส.3 มายื่นให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อออกโฉนดที่ดินตามนโยบายเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดจะแบ่งทีมสำรวจลงพื้นที่เป็น 3 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอันมาก.- สำนักข่าวไทย