หอการค้าจับมือศิริราชจัดสถานที่เตรียมฉีดวัคซีนโควิด-19 นอก รพ.

กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – หอการค้าไทย ร่วมกับศิริราช จัดสถานที่เตรียมฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน รวมถึงเพิ่มความสามารถการเข้าถึงวัคซีน ซึ่งจะทำให้การควบคุมการระบาดทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล กล่าวถึงการรวมพลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ในครั้งนี้ว่า โรงพยาบาลศิริราช ได้จัดสถานที่เตรียมฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาล เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรับวัคซีนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เพิ่มโอกาสสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในระดับที่สามารถยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ โดยร่วมมือบริการฉีดวัคซีนกับสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร สภาหอการค้าไทย ไอคอนสยาม และ ทรู ดิจิทัล พาร์ค สำหรับการฉีดวัคซีนในประชาชนหมู่มากที่มีสุขภาพแข็งแรง หรือมีโอกาสเกิดอาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนน้อย พร้อมให้บริการ 2 แห่ง คือ ไอคอนสยาม และ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ซึ่งได้มีการเตรียมระบบให้วัคซีนที่ปลอดภัย และครบถ้วนทุกขั้นตอน จนถึงการดูแลและสังเกตอาการ สามารถให้บริการฉีดวัคซีน 1,000 คน/วัน โดยกลุ่มเป้าหมายผู้รับบริการเป็นประชาชนกลุ่มเสี่ยงตามประกาศของกรุงเทพมหานคร อาทิ บุคลากรทางการศึกษา และกลุ่มอาชีพเสี่ยง หรือประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ จุดฉีดวัคซีนที่ไอคอนสยาม จะเป็นประชาชนในพื้นที่เขตคลองสาน ธนบุรี บางกอกน้อย ส่วน ทรู ดิจิทัล พาร์ค จะเป็นประชาชนในพื้นที่เขตบางนา พระโขนง  

สำหรับสถานที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้ง 2 แห่ง จะมีการทดสอบระบบการให้บริการวัคซีนตามขั้นตอนต่าง ๆ อาทิ จุดนั่งพักคอยก่อนลงทะเบียน จุดลงทะเบียน กรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อทำบัตรเข้ารับการฉีดวัคซีน จุดวัดความดันเพื่อตรวจสอบความพร้อมของร่างกาย จุดคัดกรองประวัติ จุดฉีดวัคซีน จุดสังเกตอาการ 30 นาที หลังรับการฉีดวัคซีน และออกหนังสือรับรองการฉีดวัคซีน อีกทั้งยังมีรถพยาบาลประจำจุดฉีด หากเกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรง ทางทีมแพทย์และพยาบาลจะทำการรักษา และนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที โดยทดสอบระบบบริการฉีดวัคซีนให้กับอาสาสมัครและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนใกล้เคียง จำนวน 320 คน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ ICONSIAM ART SPACE (ไอคอนสยาม อาร์ต สเปซ) ชั้น 8 และจะทดสอบระบบการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการศึกษาและอาสาสมัคร จำนวน 320 คน ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมได้พร้อมจุดอื่น ๆ ในเดือนมิถุนายน


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยขอขอบคุณโรงพยาบาลศิริราช ที่ให้ความร่วมมือกับภาคเอกชนในการสนับสนุนการดำเนินงานของกรุงเทพมหานคร เพื่อการกระจายวัคซีนให้เกิดประสิทธิภาพและทั่วถึงมากที่สุด ซึ่งการจะเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชนทั่วไปใน กทม.ให้ได้อย่างน้อย 50,000 โดส/วันนั้น ภาคเอกชนและภาคส่วนต่าง ๆ ต้องเข้ามาเสริมการทำงานของกรุงเทพมหานคร โดยบทบาทสำคัญของหอการค้าไทยในช่วงแรกนี้ คือ การจัดเตรียมสถานที่สำหรับการกระจายวัคซีนไปยังประชาชนให้ทั่วถึงโดยเร็วที่สุด ซึ่งในช่วงแรกได้กำหนดจัดหน่วยบริการฉีดวัคซีนไว้ 14 แห่ง และอยู่ระหว่างการร่วมลงพื้นที่สำรวจกับสำนักอนามัยอีก 11 แห่ง ซึ่งคาดว่าสถานที่ทั้ง 25 แห่งนี้จะสามารถเปิดให้บริการได้ทั้งหมดภายในต้นเดือนมิถุนายนแน่นอน โดย ณ วันนี้มีสถานที่ 4 แห่ง ได้เปิดให้บริการฉีดวัคซีนไปแล้ว คือ เซ็นทรัลลาดพร้าว สามย่านมิตรทาวน์ เดอะมอลล์ บางกะปิ และบิ๊กซี บางบอน 

“การกระจายวัคซีนให้เข้าถึงประชาชน เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วน เพราะนอกจากจะช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของประชาชนแล้ว ยังสร้างความเชื่อมั่นให้นานาประเทศ และจะช่วยให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้ ดังนั้น จึงขอฝากถึงประชาชนทุกท่านให้มาฉีดวัคซีนในจุดที่เปิดให้บริการทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งได้เตรียมความพร้อมต่าง ๆ เกือบสมบูรณ์แล้ว และเชื่อมั่นว่าภาครัฐจะมีปริมาณวัคซีนที่จัดสรรให้กับประชาชนได้อย่างเพียงพอ เพื่อให้ในอนาคตอันใกล้ เราจะสามารถเปิดประเทศ และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตได้ต่อไป” นายสนั่น กล่าว

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์พร้อมสนับสนุนภารกิจฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติที่สำคัญ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่อย่างเร็วที่สุด และจะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และวิถีชีวิตของพวกเราคนไทยกลับคืนสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ร่วมมือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลศิริราช เปิดหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ขึ้นที่ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค” บนถนนสุขุมวิท (ช่วงสุขุมวิท 101/1) โดยจะเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งได้นำศักยภาพในการเป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมดิจิทัลครบวงจร ทั้งเครือข่าย True 5G, 4G และ WiFi มาอำนวยความสะดวก และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยสำหรับการให้บริการฉีดวัคซีนแก่พี่น้องประชาชนที่จะมารับบริการ โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มการจัดคิว ตั้งแต่จุดลงทะเบียนจนถึงจุดพักสังเกตอาการหลังฉีดวัคซีน และยังมีหุ่นยนต์ True Digital RoboCore เพื่อบริการประชาชนด้านต่าง ๆ อาทิ หุ่นยนต์ต้อนรับและให้ข้อมูล หุ่นยนต์ส่งของและบริการน้ำดื่ม และหุ่นยนต์ทำความสะอาดพื้นที่ เป็นต้น ตลอดจนติดตั้งเซ็นเซอร์และอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) เชื่อมต่อแพลตฟอร์มตรวจสอบความหนาแน่นของผู้เข้ารับวัคซีนในพื้นที่ และรายงานผ่านแดชบอร์ดแบบเรียลไทม์ โดยมั่นใจว่า ทรู ดิจิทัล พาร์ค จะเป็นจุดฉีดวัคซีนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง มั่นใจได้ในความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพราะบริเวณที่เปิดบริการฉีดวัคซีนเป็นพื้นที่บริเวณลานนอกอาคาร ชั้น 1 และชั้น 2  ที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก จัดเว้นระยะห่าง เดินทางสะดวก เชื่อมต่อจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีปุณณวิถี และมีที่จอดรถมากกว่า 1,300 คัน คาดว่าจะสามารถรองรับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการได้ราว 1,000 คน/วัน นอกจากนี้ ทรูยังได้พัฒนาแพลตฟอร์ม “ทำเพื่อประเทศไทย หรือ Thumb for Thailand” สำหรับระดมกำลังสมัครอาสาสมัครบุคลากรทางการแพทย์มาช่วยฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลอีกด้วย


นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยามมีนโยบายสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมของภาครัฐ พร้อมผนึกความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อช่วยเหลือทั้งในงานด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตการณ์ครั้งนี้ไปได้ด้วยดีร่วมกัน

สำหรับภารกิจแห่งชาติเพื่อกระจายวัคซีนโควิด-19 ไอคอนสยามพร้อมเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิดนอกโรงพยาบาลให้กับประชาชน เพื่อช่วยกันนำวัคซีนกระจายสู่ประชาชนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้เกิดจากการรวมพลังกันระหว่างภาครัฐ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และภาคเอกชน ได้แก่ หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ไอคอนสยาม และพันธมิตรอีกจำนวนมาก เพื่อเป็นหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน โดยมีเป้าหมายให้บริการฉีดวัคซีนวันละ 1,000 คน โดยได้จัดสรรพื้นที่ ICONSIAM ART SPACE (ไอคอนสยาม อาร์ต สเปซ) ชั้น 8 ซึ่งเป็นพื้นที่โล่ง โปร่งสบาย อากาศถ่ายเทได้ดี เป็นชั้นที่มีบรรยากาศสวยงาม มองเห็นทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยา ปกติใช้เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ความรู้ และพื้นที่ในการแสดงงานศิลปะของศิลปินชาวไทยและศิลปินที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก

นอกจากนี้ ไอคอนสยาม ยังจัดอาสาสมัครมาอำนวยความสะดวกแก่แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชน ภายใต้มาตรการตามที่กรุงเทพมหานครและโรงพยาบาลศิริราชกำหนดอย่างเคร่งครัด

อีกทั้งมีความพร้อมทั้งการคุมเข้มมาตรการความปลอดภัยและสุขอนามัยตามที่ภาครัฐกำหนดอย่างเคร่งครัด ตลอดจนการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับผู้มารับบริการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ ไอคอนสยาม ร่วมกับทิพยประกันภัย ได้จัดเตรียมประกันการแพ้วัคซีนโควิด-19 เพื่อมอบให้ฟรีสำหรับทุกคนที่มารับบริการที่หน่วยบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกสถานพยาบาล ที่ไอคอนสยาม และลงทะเบียนรับสิทธิประกันภัยตลอดระยะเวลาของโครงการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]