เร่งนำเข้าวัคซีนโรคลัมปีสกินในเดือนนี้

กรุงเทพฯ 20 พ.ค. – รมต. ประภัตร สั่งเร่งรัดนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคลัมปีสกิน ในโค-กระบือ มั่นใจถึงไทยแน่นอนปลายเดือนพ.ค. นี้


นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้อธิบดีกรมปศุสัตว์เร่งรัดให้นำเข้าวัคซีนป้องกันโรคลัมปีสกิน (LSDV) เพื่อใช้ในการควบคุมและป้องกันโรคในโค-กระบือที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ราว 20 จังหวัด ซึ่งเป็นมาตรการหนึ่ง ที่นำมาใช้ร่วมกับมาตรการด้านอื่นๆ ตามที่กรมปศุสัตว์ได้มีการเผยแพร่ไปยังเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ อย่างต่อเนื่องและกว้างขวาง เพื่อเร่งสร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือในการควบคุมและป้องกันโรคดังกล่าวให้สงบลงโดยเร็ว

นายประภัตรกล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ต้นปี 2564 ที่ทราบจากกรมปศุสัตว์ว่า ได้เกิดการระบาดของโรคนี้ในประเทศเมียนม่า และจำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในทุกด่านตามแนวชายแดน ได้ตรวจติดตามสถานการณ์ที่จังหวัดตากทันที จนเป็นที่มาของการปิดด่านตามแนวชายแดน และตรวจตราการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์อย่างเข้มข้น ตามแนวทางที่กรมปศุสัตว์เสนอมาจนถึงปัจจุบัน


อย่างไรก็ตาม แม้ดำเนินมาตรการต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่า ได้เกิดอุบัติการณ์ของโรคดังกล่าวนี้ครั้งแรกในประเทศไทย ที่จังหวัดร้อยเอ็ด และปัจจุบันก็ได้เกิดโรคนี้ลุกลามในพื้นที่จังหวัดต่างๆ แล้วราว 20 จังหวัด ทั้งนี้โค-กระบือสัตว์ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีอัตราการตายที่ค่อนข้างต่ำ แต่ก็ทำให้เกิดความเสียหายด้านอื่นๆ ตามมา กระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องดังกล่าว ได้กำชับและให้แนวทางแก่กรมปศุสัตว์ในการดำเนินมาตรการต่างๆ ให้ได้รับความร่วมมือที่ดีจากเกษตรกร และผู้เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ได้มีการดำเนินมาตรการต่างๆ หลายด้าน อย่างเข้มข้น รวมถึงได้มีการสั่งซื้อวัคซีน LSDV จาก บ. Inter vet intetnational BV ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีโรงงานผลิตในประเทศแอฟริกาใต้รวม 60,000 โด๊ส ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประสานงานเพื่อส่งมอบวัคซีนให้กับประเทศไทย ซึ่งหากกระบวนการดังกล่าวไม่มีอะไรติดขัด ทางผู้ขายจะใช้เวลาในการส่งมอบทางเครื่องบิน 3 วัน ซึ่งประเมินไว้ในเบื้องต้นว่า จะได้รับวัคซีน LSDV ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 หลังจาก ผ่านกระบวนการต่างๆตามขั้นตอนในประเทศไทยแล้ว กรมฯ จะกระจายวัคซีนให้ถึงเกษตรกรเป้าหมายในพื้นที่เกิดโรค และในพื้นที่เสี่ยงสูง โดยเร็วที่สุด ภายใต้การกำกับดูแลของกรมปศุสัตว์อย่างใกล้ชิดต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย