กรุงเทพฯ 18 พ.ค.-ข่าวดี! ของผู้ปฎิบัติงานบริการระบบขนส่งสาธาณะ และผู้ใช้บริการ พนักงานที่ปฏิบัติงานด่านหน้าจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม มอบนโยบายให้มีการเร่งฉีดวัคซีนแก่พนักงานที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในระบบคมนาคมขนส่งทั้งหมด เนื่องจากเป็นบุคลากรกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นผู้ติดเชื้อ และระบาดไปสู่ผู้ใช้บริการอื่นได้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานให้บริการจัดส่งจำนวนและรายชื่อ พนักงานด่านหน้าที่จะต้องเร่งฉีดวัคซีน เพื่อนำเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขจัดสรรวัคซีนให้นั้น จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีพนักงานของแต่ละหน่วยงานที่จะได้รับการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. จำนวน 12,000 คน เป็นพนักงานขับรถ เก็บค่าโดยสาร และพนักงานประจำท่าปล่อยรถ
ส่วนพนักงาน บริษัทขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ซึ่งสวนใหญ่จะเป็นพนักงานขับรถ และพนักงานประจำรถ ประมาณ 1,249 คน ในส่วนระบบรถไฟฟ้าของรัฐ ในกำกับของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. ซึ่งจะร่วมในส่วนพนักงานจากบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ที่ปฎิบัติในสถานี รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสีม่วงด้วย จะมีกว่า 1,000 คน ที่จะฉีดวัคซีน ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.มีพนักงานประจำขบวนรถ ประจำสถานี คนขับรถไฟ และตำรวจรถไฟ จำนวน 5,683 คน รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ จำนวน 700 คน
ขณะที่ระบบทางด่วน ในกำกับดูแลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. มีพนักงานด่านหน้า ซึ่งก็คือพนักงานรับค่าทางด่วนและส่วนอื่นๆ ประมาณ 1,100 คน ก็จะได้รับการฉีดวัคซีนเช่นเดียวกัน
ส่วนกรมเจ้าท่าที่ดูแลกำกับเรือโดยสาร มีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ กรมเจ้าท่า ส่วนกลางจำนวน 1,200 คน เจ้าหน้าที่เรือคลองแสนแสบ จำนวน 203 คน, เรือด่วนเจ้าพระยา จำนวน 184 คน, ท่าเรือข้ามฟาก จำนวน 143 คน และนักเรียนศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี จำนวน 582 คน
ทั้งนี้ ในส่วนของการฉีดวัคซีนของพนักงานด่านหน้าระบบคมนาคมขนส่ง จะเริ่มดำเนิการตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 ที่สถานีกลางบางซื่อ โดยจำนวนที่จะฉีดแต่ละวันจะขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรจากกระทรวง สาธารณสุขด้วย .-สำนักข่าวไทย
