เป็นงง! พีกไฟฟ้าเกิดเกือบเที่ยงคืน​

กรุงเทพฯ​ 17พ.ค​.-พีกไฟฟ้าของประเทศ เกิดเกือบเที่ยงคืน หลังเกิดโควิด-19  และ​พลังงานทดแทนแจ้งเกิดมาก​ โรงงานปรับตัวใช้ค่าไฟถูก​ ก.พลังงานศึกษาแผนใหม่ทั้งระบบ​ เบื้องต้นจุฬาฯศึกษาสำรองไฟฟ้าของประเทศอาจต้องเพิ่มเป็นร้อยละ 32


นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน​  เปิดเผยว่า​ ในขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังเตรียมทำแผนพลังงานชาติฉบับใหม่​ ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงทั้งพลังงานทดแทน​ ระบบสำรองไฟฟ้า​ ซึ่งล่าสุด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้รายงานตัวเลขการใช้ไฟฟ้าสูงสุดระหว่างวันหรือพีก ว่า ได้เกิดขึ้นเกือบช่วงเที่ยงคืนซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน​ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการปรับตัวช่วงโควิด19ที่โรงงานบริหารงานลดต้นทุนมาผลิตช่วงค่าไฟฟ้าราคาถูก​ตามหลักการทีโอยู​ ประกอบกับอาคารสำนักงานมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลงจากโครงการทำงานที่บ้าน​ โดยเดิมนั้นพีกไฟฟ้าจะเกิดช่วงกลางวัน​ แต่ระยะต่อมาเกิดช่วงหัวค่ำ​ และล่าสุด​ เกิดเกือบเที่ยงคืน

ส่วนเรื่องสำรองไฟฟ้าที่สูง​เกือบร้อยละ 40 จากเกณฑ์ที่เหมาะสมของประเทศที่ร้อยละ15 คณะทำงานศึกษา  สำรองศึกษาพบว่าไม่ได้สร้างภาระกับต้นทุนแต่อย่างใดเพราะค่าไฟฟ้าได้บวกเข้ามาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว​ และการปลดโรงไฟฟ้าต่างๆให้หมดก่อนสัญญานั้นเป็นเรื่องไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ​  ทางคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานหรือ​ กบง.ซึ่งมี​นายสุพัฒนพงษ์​ พันธ์​มีเชาว์ ​รมว.พลังงาน จึงสั่งให้กระทรวงพลังงานร่วมชี้แจงทำความเข้าใจประชาชนต่อไป​  รวมถึงให้ศึกษาเรื่องสำรองที่สูงก็เป็นเรื่องจำเป็นรองรับพลังงานทดแทนที่เข้าระบบมาสูงขึ้น​ เพื่อให้ไฟฟ้ามีเสถียรภาพ​ ในการบริการประชาชนและสังคม​ ซึ่งในต่างประเทศในขณะนี้ได้ปรับสำรองไฟฟ้าของประเทศสูงขึ้นมากรองรับพลังงานทดแทน​ เช่น​ เยอรมัน​ เป็นต้น


“พีกที่เปลี่ยนเวลาเป็นเกือบเที่ยงคืน​  ประกอบกับพลังงานทดแทนเข้าระบบ​ เช่น​ โซลาร์เซลล์​ก็ทำให้พีกเปลี่ยนเวลา​ ดังนั้น​ สำรองไฟฟ้าแบบเดิม​ ร้อยละ15อาจไม่เหมาะสม​ ซึ่งจุฬาฯ​ศึกษาว่าควรอยู่ที่ร้อยละ 30 ซึ่งเรื่องนี้​ สนพ.จะนำมาประกอบทำแผนไฟฟ้าต่อไป” ผอ.สนพ.ระบุ

สำหรับความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุดของระบบในปี 64  เกิดขึ้นเดือนเมษายนเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 3 เมษายน  เวลา 21.03 น. มีค่าเท่ากับ 30,135.30 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา 598.50 เมกะวัตต์ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.03  โดยพีกของประเทศเกิดขึ้นก่อนโควิด​ -​19ที่30,853.20 เมกะวัตต์ (+ร้อยละ8.88) เมื่อปี 62  ก่อนลดลงเหลือ 30,135.30 เมกะวัตต์ ปี 63

นายวัฒนพงษ์ กล่าวว่า สนพ. เคยว่าจ้างสถาบันวิจัยพลังงานจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อปี 2561 มาพิจารณาประกอบการจัดทำแผนไฟฟ้า( PDP)​ ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวได้มีการศึกษาเปรียบเทียบเกณฑ์ Reserve Margin/LOLE(สำรองไฟฟ้า/อัตราโอกาสการเกิดไฟดับที่เหมาะสม)​ ของต่างประเทศ ซึ่งพบว่าในสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) กำหนด LOLE ในระดับไม่เกิน 0.3 วัน/ปี (ประมาณ 7 ชั่วโมง/ปี) และในหลายๆ รัฐของสหรัฐอเมริกา กำหนด LOLE ในระดับไม่เกิน 0.1 วัน/ปี (ประมาณ 2.4 ชั่วโมง/ปี)


ทั้งนี้ ในผลการศึกษาเสนอแนะเกณฑ์ LOLE ที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทยภายใต้สถานการณ์การผลิตและการใช้ไฟฟ้าในช่วงที่มีการศึกษาในระดับไม่เกิน 0.7 วัน/ปี (ประมาณ 17 ชั่วโมง/ปี) โดยเมื่อแปลงเป็นค่า Reserve Margin พบว่าไม่ควรต่ำกว่าร้อยละ 32.36 อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการนำผลการศึกษา ดังกล่าวมาพิจารณา/ทบทวน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การผลิตและการใช้ไฟฟ้าทั้งในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต

ทั้งนี้​ กบง. 14พ.ค.64 รับทราบ แนวทางการบริหารจัดการกำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin) ของประเทศ ตามข้อเสนอของ คณะทำงานบริหารจัดการกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองของประเทศ และได้มอบหมายให้ สนพ.สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และ กฟผ. ร่วมกันพิจารณาทบทวนสมมติฐานการกำหนดค่ากำลังผลิตพึ่งได้ (Dependable Capacity) ของโรงไฟฟ้าของ กฟผ. และพิจารณาทบทวนเกณฑ์ Reserve Margin โดยพิจารณาจากโอกาสเกิดไฟฟ้าดับที่เหมาะสมในภาพรวมทั้งประเทศและแยกตามรายพื้นที่ และมอบหมายให้ สำนักงาน กกพ. พิจารณาออกแบบสัญญาในการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนให้เหมาะสมกับโรงไฟฟ้าแต่ละประเภทและการรับซื้อไฟฟ้าจริงของระบบ รวมถึง ปรับปรุงกฎระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้มีความเหมาะสมและยืดหยุ่น สอดคล้องกับเทคโนโลยี นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ สนพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ฉบับใหม่ โดยให้คำนึงถึงการวางแผนจัดหาโรงไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้ารายภูมิภาค การกำหนดแนวทางการบริหารจัดการการใช้ไฟฟ้าในช่วงความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ให้กระจายออกไปในช่วงอื่น ๆ ของวัน เพื่อลดการจัดหา/สร้างโรงไฟฟ้า การวางแผนและดำเนินการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้สามารถรองรับพลังงานทดแทนที่จะเข้ามาในระบบไฟฟ้ามากขึ้นในอนาคต เป็นต้น . – สำนักข่าว​ไทย​

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]