คลังแจง “คนละครึ่ง-ยิ่งใช้ยิ่งได้” เริ่มใช้เงินครึ่งปีหลัง

กรุงเทพฯ 7 พ.ค.- คลังแจงโครงการ “คนละครึ่ง – ยิ่งใช้ยิ่งได้” เริ่มใช้เงินครึ่งปีหลัง เปิดทางให้กลุ่ม “เราชนะ” เลือกเข้าร่วมหนึ่งโครงการ เตรียมเสนอ ครม.เร็วๆ นี้ หวังเยียวยาครอบคลุมประชาชนกว่า 51 ล้านคน คาดกระตุ้นเศรษฐกิจดันจีดีพีโต 2.3-2.8% ในปี 64

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การช่วยเหลือเยียวยาผู้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ครอบคลุม 51 ล้านคนผ่านหลายโครงการ สำหรับมาตรการเร่งด่วน กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอ ครม. ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ พิจารณา รายละเอียดการขยายเวลาเป็นโครงการต่อเนื่อง ทั้งเราชนะ จำนวน 33.5 ล้านคน ได้รับเงินงวดแรก 21 พ.ค. งวดสอง 28 พ.ค.ส่วนกลุ่มม.33 เรารักกัน กลุ่มเป้าหมาย 9.27 ล้านคน ได้รับเงินงวดแรก 24 พ.ค. งวดสอง 31 พ.ค. ทั้งสองกลุ่ม ได้รับเงินเพิ่มให้สัปดาห์ละ 1,000 บาท รวมคนละ 2,000 บาท เพื่อใช้จ่ายในช่วงเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 64 โดยผู้อยู่ในโครงการ เราชนะ และม.33 เรารักกัน ยังสามารถเข้าร่วมโครงการ ทั้งคนละครึ่ง เฟส 3 และ ยิ่งใช้ยิ่งได้ ซึ่งเป็นมาตรการเพิ่มเติมในครึ่งปีหลัง


โฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย ในสัปดาห์ถัดไปภายในเดือนพฤษภาคม เตรียมเสนอ ครม.พิจารณา มาตรการอื่นเพิ่มเติมโดยใช้เงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เริ่มใช้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2564 ประกอบด้วย

1.มาตรการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ เพื่อเติมเงินให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ จำนวน 13.65 ล้านคน และกลุ่มเประบางต้องการความช่วยเหลือพิเศษ จำนวน 2.5 ล้านคน ได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มอีก 200 บาท/เดือน เป็นระยะเวลา 6 เดือน รวมเป็นเงิน 1,200 บาท เร่ิมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 64


2.มาตรการช่วยเหลือผ่านโครงการ “คนละครึ่ง เฟส 3” หวังช่วยเหลือประชาชน กลุ่มเป้าหมาย 31 ล้านคน จากเดิมมีประชาชนลงทะเบียน ร่วมโครงการมาแล้ว 15 ล้านคน รัฐบาลจะดึงฐานข้อมูลเดิม แต่ต้องให้ผู้ร่วมโครงการ คนละเครึ่ง ยืนยันตัวตน ผ่าน “แอ็ปเป๋าตัง” อีกครั้ง เพราะบางคนอาจเปลี่ยนใจเลือกเข้าร่วมโครงการของรัฐ คือ โครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้” โดยต้องเลือกเข้าร่วมโครงการเพียงหนึ่งโครงการ เมื่อเสนอ ครม.พิจาณาแล้ว เตรียมเปิดให้ลงทะเบียนใหม่เพิ่มอีก 16 ล้านคน เพื่อรับเงินเยียวยา 3,000 บาท ส่วนกลุ่มเดิมจะได้รับเงินโดยอัตโนมัติ เพื่อใช้จ่ายคนละครึ่ง ไม่เกินวันละ 150 บาท รัฐสมทบไม่เกิน 150 บาท ใช้เงินจนครบ 3,000 บาท ในครึ่งปีหลัง กลุ่มคนที่อยู่ใน “เราชนะ” ยังมาเข้าร่วมโครงการได้ เพราะมาตรการ “เราะชนะ” หมดอายุไปแล้วในเดือนมิถุายน เริ่มใช้เงิน ก.ค.-ธ.ค.64

3.มาตรการส่งเสริมการใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ปานกลาง รายได้สูง ผ่านโครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้” กลุ่มเป้าหมาย 4 ล้านคน เพื่อต้องการให้กลุ่คนมีรายได้ มีส่วนร่วมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการใช้จ่ายกับผู้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เมื่อเข้าร่วมโครงการแล้ว ยิ่งใช้จ่ายมาก ผ่านแอปเป๋าตัง จะได้รับสิทธิ์คืนเงินส่วนลดเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนร้อยละ 10-15 ได้รับเงินส่วนลดคืนในเดือนถัดไป ผ่าน E-Voucher สูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน โดยกำหนดยอดใช้จ่ายเพื่อคืนส่วนลดเป็น E-Voucher ไมเ่กิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน เช่น หากใช้จ่ายผ่านร้านค้า 10,000 บาท จะได้รับคืนส่วนลดร้อยละ 10 เข้าไปใน “แอ็ปเป๋าตัง” ในเดือนถัดไป จำนวน 500 บาท หากใช้จ่ายวงเงิน 10,000-40,000 บาท ได้รับส่วนลดคืนร้อยละ 15 เป็นเงินE-Voucher ประมาณ 3,000 บาท หากใช้จ่าย 50,000-70,000 บาท ได้รับส่วนลดคืนร้อยละ 20 หรือไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน

รัฐบาลหวังส่งเสริมผู้มีรายได้ปานกลาง รายได้สูงเข้าร่วมโครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้” เพื่อใช้ซื้อสินค้าผ่านผู้ประกอบการ เข้าร่วมโครงการ เริ่มใช้เงิน ก.ค.-ธ.ค.64 โดยห้ามนำเงินไปซื้อสลาก สุรา ยาสูบ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ค่าบริการนำเที่ยว ค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน เพราะได้ช่วยเหลือผ่านมาตรการอื่นไปแล้ว กำหนดคุณสมบัติ เป็นคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประชาชน ไม่ใช่กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ กลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนละครึ่ง คาดเงินหมุนเวียนไปสู่ระบบเศรษฐกิจจากทุกโครงการกว่า 4 แสนล้านบาท ผลักดันจีดีพีให้ขยายตัวร้อยละ 2.3-2.8 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ถกต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ดัน 5 ยุทธศาสตร์

บ้านพิษณุโลก 14 ก.ค.- “แพทองธาร” เข้าบ้านพิษณุโลก หารือบีโอไอ – ทีมซอฟต์พาวเวอร์ไทย หนุนลงทุน พร้อมต่อยอด ดัน 5 ยุทธศาสตร์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก ในเวลา 09.50 น. เพื่อประชุมกับทีมที่ปรึกษาและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI รวมถึงหน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับและขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไทยแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเป็นการหารือต่อยอดจากที่นางสาวแพทองธาร ได้ประกาศเดินหน้ายุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย 5 ด้าน ทั้ง อาหารไทย มวยไทย ไทยเวลเน็ต ภาพยนต์ไทย และอัญมนี บนเวที Splash Softpower Forum 2025 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อวันที่ 8-11 ก.ค. ที่ผ่านมา .-316 -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร […]

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]