fbpx

MEA ห่วงใยใช้ไฟฟ้าประหยัด ปลอดภัยช่วง WFH

กรุงเทพฯ 30 เม.ย.- MEA แนะใช้ไฟฟ้าในบ้านในช่วง Work from Home ให้ประหยัดและปลอดภัย คือหมั่นดูแลบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอ รวมถึงตรวจสอบสายไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพดีหากพบว่าชำรุดควรเปลี่ยนใหม่ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์


นายจุมภฎ หิมะเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้ประชาชนส่วนใหญ่พักอาศัยและทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from Home) เพื่อเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) จึงมีการใช้ไฟฟ้าตลอดทั้งวันประกอบกับอากาศที่ร้อนทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานมากขึ้นส่งผลให้มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยสูงขึ้นว่าปกติถึงแม้ในช่วงเวลาใช้งานเท่ากัน นอกจากนี้ยังอาจมีการใช้เครื่องปรับอากาศ เปิดปิดตู้เย็นบ่อยครั้ง ใช้พัดลมยาวนาน ปั๊มน้ำทำงานมากเนื่องจากมีการใช้อุปโภคบริโภคในบ้านมากขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นเหตุให้มีค่าไฟเพิ่มสูงขึ้นตามมาด้วย 

นอกจากนี้ MEA มีคำแนะนำการใช้ไฟฟ้าในบ้านในช่วง Work from Home ให้ประหยัดไฟและปลอดภัย โดยถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้งาน เลือกใช้หลอดไฟแบบ LED ปิดสวิตช์ไฟดวงที่ไม่ใช้ เปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่พอเหมาะ 26°C แต่หากต้องการความรู้สึกเย็นสบายเท่ากับ 24°C ให้เปิดพัดลมช่วย โดยไม่ต้องลดอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ และควรล้างเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง การใช้เตารีดให้ประหยัดควรรีดผ้าครั้งละมาก ๆ ไม่ควรรีดบ่อย ๆ โทรทัศน์เมื่อเลิกใช้ควรปิด และถอดปลั๊กทุกครั้งไม่ควรปิดด้วยรีโมทเพียงอย่างเดียว จัดระเบียบตู้เย็นให้เหมาะสมไม่เปิดตู้เย็นบ่อย ๆ ไม่เปิดทิ้งไว้นานๆ เมื่อใช้เครื่องดูดฝุ่นควรทิ้งฝุ่นในถุงเครื่องดูดฝุ่นทุกครั้ง เพื่อให้มีแรงดูดดีขึ้น และหมั่นดูแลบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานและปลอดภัยอยู่เสมอ รวมถึงหมั่นตรวจสอบสายไฟฟ้า ให้อยู่ในสภาพดีหากพบว่าชำรุดควรเปลี่ยนใหม่ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ รวมทั้งติดตั้งสายดินพร้อมเครื่องตัดไฟรั่วเพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรที่ก่อให้เกิดอัคคีภัย เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานเพื่อความปลอดภัยอยู่เสมอ อีกทั้งเป็นการช่วยประหยัดพลังงานลดค่าไฟฟ้าลงได้ รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย


อย่างไรก็ตาม MEA มีความพร้อมดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้าในพื้นที่ให้บริการ โดยยึดหลักมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดของ ศบค. D-M-H-T-T-A โดยเคร่งครัด เพื่อช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อีกทั้งเพิ่มการดูแลงานฉุกเฉิน โรงพยาบาล สถานที่สำคัญ อีกทั้งจัดให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลระบบไฟฟ้าพร้อมให้บริการแก้ไขไฟฟ้าขัดข้อง ตลอด 24 ชั่วโมง และขอแนะนำบริการในรูปแบบออนไลน์ https://www.mea.or.th/eservice/ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยจากโควิด ไม่ต้องเดินทาง ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้แก่  Facebook : การไฟฟ้านครหลวง MEA, Twitter: @mea_news, สามารถแจ้งเหตุ ตรวจสอบค่าไฟฟ้าได้ผ่าน MEA Smart Life Application สามารถใช้งานได้ทั้ง App Store และ Google Play ดาวน์โหลดฟรี ที่ https://onelink.to/measmartlife และ Line : MEA Connect เพิ่มเพื่อนได้ที่ https://lin.ee/gX2zNRl รวมถึงศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้าการไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

#พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร

Energy for city life, Energize smart living


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว