กรุงเทพฯ 26 เม.ย. – ปตท.สผ.เผยยุติก่อสร้าง”โมซัมบิกLNG” เหตุสุดวิสัยจากกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบที่เมือง Palma ประเทศโมซัมบิก บริษัทอยู่ระหว่างประเมินผล กระทบ
นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นที่เมือง Palma ประเทศโมซัมบิก ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการพัฒนาและก่อสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน (Mozambique LNG) ประมาณ 20 กิโลเมตร ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย จึงต้องยุติการดำเนินโครงการออกไปก่อน
โครงการดังกล่าว ปัจจุบันบริษัท พีทีทีอีพี โมซัมบิก แอเรีย 1 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ถือหุ้น 8.5% ร่วมกับบริษัท ENH Rovuma Área Um, S.A. (15%), บริษัท Mitsui E&P Mozambique Area1 Limited (20%), บริษัท ONGC Videsh Rovuma Limited (10%), บริษัท Beas Rovuma Energy Mozambique Limited (10%), บริษัท BPRL Ventures Mozambique B.V. (10%) และบริษัท TOTAL E&P Mozambique Area 1 Limitada ซึ่งถือสัดส่วนการลงทุน 26.5% และเป็นผู้ดำเนินการ (Operator)
ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งให้ทราบว่าพนักงานและผู้รับเหมาของโครงการไม่ได้รับอันตรายจาก เหตุการณ์ดังกล่าว โดยผู้ดำเนินการได้ทำการอพยพ พนักงาน และผู้รับเหมาของโครงการทั้งหมดออกจากพื้นที่และได้ส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้รัฐบาลโมซัมบิกดูแลเพื่อความปลอดภัยแล้ว โดยในเวลาต่อมา ผู้ดำเนินการได้ตัดสินใจประกาศหยุดดำเนินการก่อสร้างด้วยเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) เพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประเมินผล กระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อไป
สำหรับโครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 เป็นโครงการก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของโมซัมบิก อยู่ระหว่างการพัฒนา (Development Phase) โดยปี 2563 มีการปรับพื้นที่ก่อสร้างโครงการ (Afungi Site Improvement) ประกอบด้วย สนามบินภายในโครงการ อาคารที่พักอาศัยพนักงาน ถนนทางเข้าโครงการ และท่าเรือขนส่งอุปกรณ์ชั่วคราว แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยตามแผนงาน
ที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีความจำเป็นต้องหยุดงานก่อสร้างในช่วงหนึ่ง และเดือนมิถุนายน 2563 และกลับมาก่อสร้าง จนสามารถเร่งรัดความคืบหน้าในงานก่อสร้าง ให้เป็นไปตามแผนงาน และในส่วนงานจัดหาเรือขนส่ง LNG ได้คัดเลือกบริษัทเจ้าของเรือขนส่ง LNG (LNG Ship-owner) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการสรุปทำสัญญาเช่าเรือ ขนส่ง LNG (Time Charter Party Agreement) และยังได้ลงนามสัญญาเงินกู้ในรูปแบบ Project Finance วงเงิน 14,900 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในการพัฒนาโครงการ เดิมกำหนดแผนการผลิตปิโตรเลียมเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2567
ตามแผนงานเดิม ในระยะแรก โรงผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวจะประกอบด้วย 2 สายการผลิต (train) มีกำลังการผลิตรวม 12.88 ล้านตันต่อปี จากแหล่งโกลฟินโญ-อาตุม แหล่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง ปัจจุบันโครงการมีสัญญาซื้อขายLNGในระยะยาวกับผู้ซื้อทั้งจากทวีปเอเชียและยุโรปรวมแล้วประมาณ 11.1 ล้านตันต่อปี และ ปตท.สผ.คาดว่าแหล่งนี้จะสามารถเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมที่พิสูจน์แล้ว (Proved Reserves) ให้กับ ปตท.สผ. ตามสัดส่วนการลงทุนประมาณ 140 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ –สำนักข่าวไทย