กรุงเทพฯ 22 เม.ย.-นักวิชาการหอการค้าไทย ระบุผลกระทบโควิด-19 ระลอกที่ 3 รุนแรงกว่า 2 รอบแรก ฉุดจีดีพีช่วง 2 เดือน หายไปกว่า 2 แสนล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้โตเพียงร้อยละ 1.6 จากเดิมมองว่าจะโตร้อยละ 2.8 แนะรัฐต้องเปิดใจร่วมมือแก้ไขไปพร้อมกัน ย้ำโอกาสเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติปลายปีหน้า
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ทางศูนย์ฯ ประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ระลอกที่ 3 แม้ตัวเลขการติดเชื้อเกินกว่า 1,300-1,400 ราย ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา ซึ่งผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์มาแล้วนั้น ถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เกินจาก 1,700 ราย จึงถือว่าการแพร่ระบาดโควิดไม่ได้รุนแรงไปมากนัก และน่าจะประเมินภาพรวมเศรษฐกิจหลังจากนี้ได้
ทั้งนี้ ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ หอการค้าไทย ได้สอบถามต่อสมาชิกหอการค้าไทยทั่วประเทศ โดยเฉพาะในจังหวัดต่างๆ ต่อผลกระทบโควิด-19 ระลอก 3 ซึ่งแต่ละจังหวัดระบุตรงกัน และยอมรับว่าระลอก 3 นี้กระทบต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวมอย่างมาก ทั้งภาคธุรกิจ การค้า การท่องเที่ยว และอื่นๆ ซึ่งมากกว่าผลกระทบจากระลอกที่ 1 และระลอก 2 ดังนั้น จึงอยากเสนอแนะภาครัฐให้เร่งแก้ไขปัญหา โดยร่วมมือทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะต้องเดินหน้าแก้ไขไปด้วยกัน โดยเฉพาะเร่งหาและฉีดวัคซีนร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยรวม และสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนและคนในสังคมให้มีความชัดเจน พร้อมทั้งพยายามเปิดประเทศให้เร็วที่สุด แม้หลายฝ่ายมองว่าโอกาสที่จะแก้ไขให้ทุกอย่างกลับมาดีขึ้นในอีก 1-2 ปีข้างหน้าก็ตาม แต่ก็อยากเห็นความร่วมมือจากทุกฝ่ายไปในทิศทางเดียวกันอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ภาคธุรกิจต้องการให้รัฐบาลรีบดำเนินการหรือช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด โดยเฉพาะภาคการเงินจะต้องเร่งเสริมสภาพคล่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การพักชำระหนี้ในกลุ่มภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ พร้อมทั้งเร่งกระตุ้นภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศ และแม้ว่าผลกระทบโควิดในระลอก 3 ทำให้อัตราการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจลดหายไปกว่า 200,000-300,000 ล้านบาท ทำให้ปีนี้มองว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้เพียงร้อยละ 1.2-1.6 จากเป้าหมายเดิม หากไม่มีการระบาดโควิด-19 ระลอก 3 เกิดขึ้น เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ถึงร้อยละ 2.8 โดยตัวเลขนี้ยังไม่ใช่การปรับประมาณการทั้งปีของหอการค้าไทย แต่เป็นตัวเลขประเมินจากผลกระทบโควิด-19 ระลอก 3 เท่านั้น ดังนั้น ขึ้นอยู่กับภาครัฐที่จะเร่งหามาตรการต่างๆ กระตุ้นภาคธุรกิจทุกด้านให้กลับมาเหมือนเดิม ซึ่งก็ต้องติดตามหลังจากนี้ไป.-สำนักข่าวไทย