รมว.คลัง ห่วงหนี้ครัวเรือน – การออมของคนไทยเสี่ยงต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณ

กรุงเทพฯ 22 เม.ย. – รมว.คลัง ห่วงหนี้ครัวเรือน และ ภาวะการออมของคนไทยเสี่ยงต่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณและเศรษฐกิจไทย


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ฟื้นฟูการเงินภาคครัวเรือนไทย ภารกิจร่วมใจสร้างภูมิคุ้มกันด้านการเงิน” ภายในงานพิธีเปิดโครงการ “Happy Money สุขเงิน สร้างได้ พลังความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูและสร้างภูมิคุ้มกันด้านการเงินสำหรับคนไทย”  ที่จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า สถานการณ์ด้านการเงินของคนไทยมีประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญอย่างใกล้ชิด 4 ประเด็น


1.หนี้ครัวเรือนไทย ในไตรมาสที่ 3/2562 มีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 78.9 ของจีดีพีซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ แต่เมื่อได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สัดส่วนหนี้ครัวเรือนขยับไปอยู่ที่ร้อยละ 86.6 ในไตรมาสที่ 3/2563 สะท้อนถึงความเปราะบางของสถานะทางการเงินของคนไทย เมื่อต้องเผชิญกับภาวะวิกฤต

2.ไทยกำลังก้าวเข้าสู่ภาวะสูงวัยอย่างสมบูรณ์ คาดภายในปี 2566 จะมีสัดส่วนผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ร้อยละ 20 ของประชากรทั้งประเทศ ขณะที่สัดส่วนผู้สูงอายุของไทย ณ สิ้นปี 2563 พบว่ามีจำนวน 11.6 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 17.6 ของประชากรทั้งประเทศ การดูแลสังคมผู้สูงอายุอย่างเหมาะสมจึงต้องเตรียมพร้อมให้คนไทยมีการออมเงินตั้งแต่วัยทำงานเพื่อมีใช้จ่ายในวัยเกษียณ ซึ่งข้อมูลจากการสำรวจในปี 2560 ผู้สูงอายุร้อยละ 34.7 ยังต้องพึ่งพารายได้หลักจากบุตรหลาน และร้อยละ 31 ยังต้องทำงานเพื่อให้มีรายได้เลี้ยงตนเอง มีเพียงร้อยละ 2.3 เท่านั้นที่พึ่งพาตนเองได้จากรายได้รายได้ของเงินออม สะท้อนว่าคนไทยอาจมีภาวะความเสี่ยงเกษียณทุกข์ได้ในอนาคต

3.ผลการสำรวจการออมภาคครัวเรือนไทย ในไตรมาส 3/2561 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ครัวเรือนที่ไม่มีเงินออมมีถึง  5.8 ล้านครัวเรือนไทย หรือคิดเป็นร้อยละ 27.1 ของจำนวนครัวเรือนทั้งประเทศ และครัวเรือนที่มีการออม มี 15.7 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็นร้อยละ 72.9 ของจำนวนครัวเรือนทั้งประเทศ โดยพฤติกรรมการออมของคนไทยส่วนใหญ่ “ใช้ก่อนออม” ถึงร้อยละ 38.9 รองลงมาคือ “ออมไม่แน่นอน” ร้อยละ 38.5 และ “ออมก่อนใช้” เพียงร้อยละ 28.6


4.ทักษะการออมของคนไทยอยู่ในระดับต่ำ จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งเป็นการสำรวจตามแนวทางของความร่วมมือขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ โออีซีดี พบว่า คะแนนความรู้ด้านเงินของคนไทยต่ำมากกว่าอื่น และตำกว่าประเทศอื่นที่ทำการสำรวจ ซึ่งเป็นการสะท้อนปัญหาเศรษฐกิจและสังคม ทั้งในเชิงโครงสร้างและปัจเจกบุคคล ซึ่งการแก้ไขปัญหาต้องทำอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ.2560-2564 ได้วางแนวทางยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศด้วยการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ด้วยการเสริมสร้างศักยภาพชุมชน การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและการสร้างความเข้มทางการเงินฐานราก เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้

ขณะที่ กรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) ได้ระบุถึงสังคมแห่งการสร้างโอกาสและความเสมอภาคไว้เป็น 1 ในภารกิจของการพัฒนาที่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวสู่เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเป้าลดความเหลื่อมล้ำและกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจ ลดความยากจนข้ามรุ่น เพื่อให้ประชาชนสามารถขยับฐานะ และได้รับการคุ้มครองทางสังคมอย่างเหมาะสม

สำหรับแนวทางในการพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุนในอนาคต จะต้องให้ความสำคัญใน 5 เรื่องคือ

1.การสร้างโครงสร้างและกลไกเพื่อเอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของแผนพัฒนาฯฉบับที่ 13 หรือ Ecosytem ตลาดเงินตลาดทุน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินฟินเทค การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างปลอดภัย และการกำกับดูแลให้ระบบการเงินและตลาดทุนมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ

2.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีทักษะที่จำเป็นต่างๆ ให้เป็นพื้นฐานต่อยอดความรู้และโอกาส เพื่อให้สามารถดูแลรับผิดชอบตนเองได้ เช่น การเพิ่มพูนความรู้ทางการเงิน การออม เพื่อให้เกิดความเข้าใจและมีทักษะที่เพียงพอในการจัดการการจัดเงินส่วนบุคคล

3.การเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเร่งให้เกิดการปรับตัวของประชาชนในเกือบทุกด้าน เช่น ปรับตัวในด้านการใช้ชีวิต การทำงาน และเศรษฐกิจ และต้องตระหนักรู้ถึงการเตรียมความสำคัญในการบริหารจัดการความเสี่ยงในชีวิต จากเหตุการณ์ไม่คาดคิด โดยพื้นฐานการเตรียมการเรื่องการลดความเสี่ยง คือ การวางแผนที่ดีและข้อมูลความรู้ที่เพียงพอ เพื่อบริหารจัดการเงินให้มีความพร้อมที่จะรับกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วได้

 4.การเร่งฟื้นฟูและสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน ต้องให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในเชิงบวกต่อเรื่องการเงินและการออม เพื่อให้เกิดผลจริง สามารถตอบโจทย์ในการเสริมสร้างศักยภาพของคนไทยให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ

5.ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายระดับทั้งภาครัฐและเอกชน ในด้านการให้ความรู้ด้านการเงิน ซึ่ง ตลท. ร่วมกับพันธมิตร ได้พัฒนาเนื้อหาและทักษะด้านการเงินการลงทุนอย่างอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นประโยชน์ได้ในวงกว้าง จะช่วยยกระดับความรู้ การจัดการการเงินคนไทยได้อย่างเหมาะสม . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยประเทศไทยอากาศร้อน-ใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคกลาง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา