นนทบุรี 16 เม.ย.-กระทรวงพาณิชย์ดูแลทั้งระบบ ทั้งการผลิต –ส่งออก –การจำหน่ายสินค้า ไม่ให้เกิดผลกระทบตจากโควิด-19 ระลอกใหม่ ด้านกรมการค้าภายใน ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจเข้มต่อเนื่อง ย้ำห้ามผู้ประกอบการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้าช่วงโควิด เจอโดนโทษหนักแน่
นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ให้ความสำคัญในการรักษาความเป็นธรรมให้ประชาชน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ หน้ากากอนามัย หน้ากากทางเลือก เจลแอลกอฮอล์ และสินค้าเวชภัณฑ์ต่างๆ ให้มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนและป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาส และต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน โดยเฉพาะร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ต้องปฏิบัติตามกฎเหล็กอย่างเคร่งครัด ห้ามจำหน่ายบุหรี่ สุรา เบียร์ให้แก่ผู้ถือบัตร ห้ามยึดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ห้ามรับ แลกเป็นเงินสด ห้ามเอาเปรียบฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาและขายเกินราคาที่กำหนดโดยเด็ดขาด และห้ามบังคับการซื้อ/ขายสินค้า ถ้าหากมีการตรวจพบการกระทำผิด จะถูกเพิกถอนสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและแจ้งกรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการเพื่อเรียกคืนเครื่องอีดีซี หรือยกเลิกการใช้แอพพลิเคชั่นด้วย
“ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ติดป้ายแสดงราคาจะมีโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีที่มีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าเกินแพงเกินสมควร กักตุนสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ แจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด” นายอาวุธ
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประสานงานไปยังสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และภาคเอกชนที่อยู่ในสายการผลิตเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบแรงงานที่เข้ามาทำงานในโรงงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากที่จะเริ่มการทำงานใหม่ เมื่อพ้นช่วงหยุดยาวสงกรานต์ ซึ่งขณะนี้ สถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีความรุนแรงขึ้น จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังได้สั่งการเพิ่มเติมให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ทั้ง 58 แห่งที่ประจำอยู่ใน 41 ประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะตลาดที่เป็นเป้าหมายการส่งออกสินค้าอาหารให้ชี้แจงผู้ซื้อ ผู้นำเข้าอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสินค้าอาหารไทยปลอดโควิด-19 และให้ติดตามท่าทีของแต่ละประเทศอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้หาทางเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับสินค้าอาหารไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ได้มีความร่วมมือระหว่าง 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ ในการรับรองการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ในกระบวนการผลิตอาหารส่งออกโดยคุมเข้มตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการส่งออกอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย
.