ใบกัญชาปฏิวัติอุตสาหกรรมอาหารไทย

กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – สมาคมเดอะเชฟฯ และคลินิกการแพทย์แผนไทยร่วมสมัย โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี หนุนร้านอาหารพัฒนาเมนู ปรุงอาหารให้เป็นยาด้วยใบกัญชา เพื่อป้องกันโรคและเสริมสร้างสุขภาพ รองรับนักท่องเที่ยว นำเงินเข้าประเทศ


โครงการอบรมสัมมนา หัวข้อ “อาหารจากใบกัญชา ปรุงอย่างไรให้เป็นยาและเลิศรส” ซึ่งจัดโดยชมรมสื่อมวลชนแพทย์แผนไทย ร่วมกับสมาคมเดอะเชฟประเทศไทย (The Chef Association) และคลินิกการแพทย์แผนไทยร่วมสมัย (Contemporary Thai Medicine : CTM) โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี โดยมีวิทยากรเข้าร่วม ประกอบด้วย นพ.อิสระ เจียวิริยบุญญา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี พท.ภ.บัญชา สุวรรณธาดา ที่ปรึกษาโครงการแพทย์แผนไทยร่วมสมัย โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี และที่ปรึกษาการปลูกกัญชาทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร น.ส.รสสุคนธ์ ธนธีระบรรจง นักเทคนิคการแพทย์ชำนาญการ สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ภก.พงษ์ศักดิ์ สง่าศรี เภสัชกร นายทองเลี่ยม พุกทอง นายกสมาคมเดอะเชฟประเทศไทย และเชฟส่งเสริม ชัยชนะ กรรมการสมาคมเดอะเชฟประเทศไทย โดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการร้านอาหาร จำนวน 70 คน สื่อมวลชน จำนวน 30 คน และผู้สนใจทั่วไป รวมแล้วประมาณ 120 คน

นายทองเลี่ยม พุกทอง นายกสมาคมเดอะเชฟประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้กระแสสังคมกำลังต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารที่มีส่วนผสมจากใบกัญชาในการปรุงอาหาร ด้วยเหตุผลจะช่วยให้อาหารมีรสชาติกลมกล่อม รสชาติดี อร่อย ช่วยให้ร่าเริง ผ่อนคลายความเครียด และทำให้หลับสบาย ส่งผลให้ผู้บริโภคจำนวนมากต้องการจะเรียนรู้และชิมรสชาติ ว่าจะเป็นจริงตามที่กล่าวอ้างเผยแพร่บนโลกออนไลน์หรือไม่


ขณะเดียวกัน การปรุงอาหารที่มีส่วนผสมของใบกัญชา คือ คำถามที่ถูกถามมากจากกลุ่มเชฟที่เป็นสมาชิกสมาคมเดอะเชฟฯ และผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ ว่าจะปรุงอาหารอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักการ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะหากปรุงผิดหลักการ หรือใส่ส่วนผสมจากใบกัญชามากเกินไป ก็อาจส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดผลข้างเคียงได้

ยกตัวอย่างอาการที่ผู้แพ้สารจากกัญชาในบางราย หรือหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป คือ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว คลื่นไส้อาเจียน ปากแห้งคอแห้ง เวียนหัว หรือง่วงซึม ดังนั้น การจัดสัมมนาครั้งนี้ ก็เพื่อแนะแนวทางให้กับเชฟและผู้ประกอบการร้านอาหารได้เข้าใจ ถือเป็นการพัฒนาเรื่องการปรุงอาหารจากใบกัญชาให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพื่อผู้บริโภคจะได้ปลอดภัยจากเมนูที่รังสรรค์ขึ้นมาใหม่ ด้วยการนำตำรับยาแพทย์แผนไทยมาประยุกต์ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมของวงการอาหารไทยในรอบ 40 ปี ที่กฎหมายยาเสพติดให้โทษควบคุมไว้

“ที่สำคัญอีกหนึ่งเป้าหมาย ก็เพื่อพัฒนาอาหารไทยให้ก้าวไปสู่ครัวโลก และชูอาหารไทยในการปรุงให้เป็นยา ช่วยดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย รับประทานอาหารไทย เพื่อมีส่วนสร้างรายได้เข้าประเทศอีกทางหนึ่ง สัมมนาวันนี้ ผมขอขอบคุณเชฟ และผู้ประกอบการร้านอาหารทุกคนที่สนใจเข้าร่วมงาน และร่วมกันพัฒนาอาหารไทยไปสู่ครัวโลกให้ได้ในอนาคต” นายทองเลี่ยม กล่าว


ด้าน พท.ภ.บัญชา สุวรรณธาดา ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาการแพทย์แผนไทยร่วมสมัย โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี และที่ปรึกษาการปลูกกัญชาทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร กล่าวว่า การแพทย์แผนไทยร่วมสมัยหวังว่า ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้ประโยชน์ในการพัฒนาตำรับเมนูอาหารให้ยกระดับขึ้นสู่ความเป็นซูเปอร์ฟู้ด หรืออาหารคุณภาพสูง หรือแม้แต่การพัฒนาสู่อาหารทางยา ถือเป็นการเปลี่ยนรูปแบบอาหารให้มีความปลอดภัยสูง และเพิ่มความรู้ความเข้าใจให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาได้นำองค์ความรู้การพัฒนาตำรับอาหารในเชิงวิทยาศาสตร์

น.ส.รสสุคนธ์ ธนธีระบรรจง นักเทคนิคการแพทย์ชำนาญการ สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามประกาศ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับที่ 7 พ.ศ. 2562 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2562 ให้นำเปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก และใบ จากพืชกัญชาไปใช้ประโยชน์ได้ (ยกเว้น น้ำมัน และช่อดอก) แต่ต้องมีแหล่งที่มาที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายกำหนด สามารถนำไปปรุงเป็นอาหารและเครื่องดื่มได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย

ส่วนการนำใบกัญชาไปแปรรูปเพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ จะต้องไปขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะอยู่ระหว่างการร่างกฎระเบียบทางกฎหมายให้เสร็จสิ้นก่อน ถึงจะประกาศเป็นทางการได้

นายจรัญ ชุ่มเงิน ประธานชมรมสื่อมวลชนแพทย์แผนไทย กล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งที่ 1 นี้ ถือว่าประสบความสำเร็จได้ดี มีผู้ประกอบการร้านอาหาร เชฟ และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ก้าวต่อไปคือการพัฒนารูปแบบการปรุงอาหารจากใบกัญชาให้เป็นยาที่เลิศรส เพื่อผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกัน คาดหวังว่าจะมีส่วนกระตุ้นให้คนไทยหันมารับประทานอาหารไทยเพื่อเป็นยามากขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าการหาเงินไปจ่ายค่ายาและค่าหมอ

สำหรับเป้าหมายของการจัดสัมมนาครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ ได้เข้าใจกฎกติกาทางกฎหมายต่อพืชกัญชาว่า ส่วนไหนที่ปลดล็อกแล้ว และส่วนไหนของพืชกัญชาที่ยังต้องยึดโยงทางด้านกฎหมายอยู่ จะได้ไม่กระทำความผิด ขณะเดียวกัน เรื่องสูตรอาหาร จำนวน 10 สูตร ที่ทางผู้จัดได้คิดค้น และนำมาประยุกต์ขึ้นใหม่ตามตำรับยาแพทย์แผนไทย ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นนวัตกรรม และเป็นการปฏิรูปอาหารไทยให้เป็นยาเพื่อสุขภาพ ก็จะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อประเทศชาติและคนไทยเป็นอย่างยิ่ง

“ต่อไปในอนาคต หากอุตสาหกรรมวงการอาหารไทยได้รับการเรียนรู้และพัฒนาต่อยอด ด้วยการนำใบกัญชามาเป็นส่วนหนึ่งของอาหาร ก็เชื่อว่าจะผลักดันไปสู่ครัวโลกได้ ที่สำคัญจะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวและรับประทานอาหารไทยที่เป็นยาเพื่อสุขภาพ และนี่คือโจทย์ที่คนไทยทุกคนต้องช่วยกัน เพราะสามารถดึงเม็ดเงินเข้าประเทศได้มาก เป็นการช่วยชาติสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ผมหวังไว้เช่นนั้น” นายจรัญ กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

เปิดภาพสายลับเขมรปลอมเป็นพระ ร่วมป่วนชายแดนสระแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – เปิดภาพสายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระสงฆ์ ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม ร่วมก่อความวุ่นวายชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว จนท.ฝ่ายไทยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยตรวจพบความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยมีกลุ่มทหารกัมพูชา พร้อมด้วยกำนันลี บุคคลสำคัญในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ได้เกณฑ์ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านใกล้ชายแดนเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว คาดหมายว่า การรวมกลุ่มครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมเข้ารื้อถอนรั้วลวดหนาม ที่ฝ่ายไทยเพิ่งติดตั้งเสริมความมั่นคงตลอดแนวชายแดน ขณะเดียวกันฝ่ายความมั่นคงไทยได้ส่งโดรนบินตรวจการณ์เหนือพื้นที่ พบว่าฝั่งกัมพูชามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ ชาวบ้านเริ่มรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และมีสัญญาณว่ามีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ โดยไม่ใช่การรวมตัวตามธรรมชาติของชาวบ้านทั่วไป สายลับกัมพูชาปลอมเป็นพระ ร่วมชุมนุมที่น่ากังวลไปกว่านั้นเจ้าหน้าที่ไทยสามารถยืนยันได้ว่ามีทหารสายลับของกัมพูชาปลอมตัวเป็นพระสงฆ์ปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยใช้ผ้าเหลืองบังหน้าเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ถือเป็นยุทธวิธีในการแทรกซึมและสอดแนมการทำงานของฝ่ายไทย ทั้งยังเสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์ บิดเบือนหากเกิดการเผชิญหน้า ด้านกองกำลังบูรพาและหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดควบคุมฝูงชน ยังคงตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันการรุกล้ำพื้นที่ โดยพฤติกรรมของฝั่งกัมพูชาในระยะนี้สะท้อนให้เห็นถึงการจัดตั้งที่มี “ผู้ชี้นำเบื้องหลัง” คอยปลุกระดมและผลักดันชาวบ้านให้เข้ามาเคลื่อนไหว อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารื้อรั้วลวดหนาม หรือการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไทย ขณะที่ฝ่ายไทยยังคงยืนยันการปฏิบัติในกรอบสากล ไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรง ยกเว้นในกรณีที่ถูกบุกรุกหรือคุกคามความมั่นคงโดยตรง ด้านเพจ army military force ได้โพสภาพพร้อมข้อความวัยรุ่นเขมรโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นท้าทาย “ไม่กลัวแก๊สนํ้าตาของพวกเสียม ถ้าแน่จริงก็ใช้มันเลย วันนี้ผมใส่หน้ากากครอบทั้งหน้า ไม่หวั่นกลัวสิ่งใดๆ ขอเพียงใช้แค่แก๊สนํ้าตาพอ กระสุนยางไม่ต้อง […]

รอง ผบ.ตร. ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที

สระแก้ว 18 ก.ย. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ปรับแผนเตรียมรับมือ ป้องกันเหตุบานปลาย จ่อใช้กฎหมายดำเนินคดี ลั่นรุกล้ำเขตแดนไทย จับกุมทันที หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ พร้อมกับติดตามสถานการณ์ร่วมกับนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และกรมป่าไม้ ณ ที่ว่าการอำเภอโคกสูง เพื่อปรับแผนเตรียมรับมือหากเกิดความไม่สงบขึ้น หลังจากการประชุม เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ เปิดเผยว่า การเดินทางลงพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อหาวิธีไม่ให้เหตุการณ์บานปลายไปมากกว่านี้ แนวทางการปฏิบัติคือจะใช้กฎหมายจับกุมดำเนินคดีตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ขอให้มั่นใจว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะใช้พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง เป็นกฎหมายนำในการดำเนินคดี เมื่อมีการรุกล้ำเข้ามาในราชอาณาจักรไทยจะจับกุมทันที และยังคงเน้นย้ำให้กำลังพลอดทนอดกลั้น รวมถึงอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อระบุตัวตนและดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อความวุ่นวาย ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตั้งแต่อยู่ที่นี่มาตลอดชีวิตหนนี้เป็นหนที่ 3 ที่เกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนหน้านี้มีชาวกัมพูชาอพยพมาอาศัยอยู่หมู่บ้านจำนวนมาก […]

เร่งล่าโจรบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน

สระบุรี 18 ก.ย. – ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ใช้มีดจี้ลูกค้าเป็นตัวประกัน บังคับเจ้าของร้านหยิบทองใส่ถุงผ้า มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนออกจากร้านซิ่งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป วงจรปิดร้านทองภายในตลาดใหม่ท่าลาน ริมถนนสายท่าลาน-ห้วยบง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมหมวกกันน็อกสีแดง สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม กางเกงยีน รองเท้าเตะ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมจี้ลูกค้าในร้านเป็นตัวประกัน เพื่อบังคับให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นหญิงสูงอายุ ส่งเงินและทองให้ ตอนแรกเจ้าของร้านพยายามเจรจาต่อรอง แต่คนร้ายต้องการเงินและข่มขู่จะฆ่าตัวประกันหากไม่ส่งทองให้ สุดท้ายเจ้าของร้านต้องหยิบทองให้คนร้ายไป เป็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นละ 1 สลึง จำนวน 11 เส้น เป็นเงิน 220,000 บาท จากนั้นคนร้ายปล่อยตัวประกัน ก่อนจะออกจากร้านขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ตำรวจ สภ.บ้านหมอ ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ สืบสวนหาข้อมูลและกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เชื่อว่าไม่นานจะจับคนร้ายได้.-สำนักข่าวไทย