สุวรรณภูมิ เตรียมแผนรับการเดินทางสงกรานต์

กรุงเทพฯ 2 เม.ย.- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เตรียมแผนอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของผู้โดยสารช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 64 คาดผู้โดยสารในประเทศใช้บริการ 3.7 หมื่นคนต่อวัน


นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 9 – 18 เมษายน 2564 (รวม 10 วัน) ทสภ. คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารภายในประเทศใช้บริการรวมทั้งสิ้นประมาณ 370,000 คน หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 37,000 คน ในส่วนของเที่ยวบินภายในประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 3,100 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 310 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินตามตารางการบินจำนวน 2,758 เที่ยวบิน เที่ยวบินพิเศษจำนวน 342 เที่ยวบิน สำหรับสายการบินประจำที่ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษและเช่าเหมาลำมากที่สุด 2 อันดับแรก คือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จำนวน 270 เที่ยวบิน และสายการบินไทยสมายล์ จำนวน 72 เที่ยวบิน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 ซึ่งเป็นปีก่อนที่จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเห็นว่าผู้โดยสารภายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 10และในส่วนของเที่ยวบินในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศยังคงมีให้บริการอยู่ แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้า – ออกประเทศไทย และผู้โดยสารต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อ และต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวว่า ช่วงเวลาดังกล่าวจะมีผู้โดยสารเดินทางภายในประเทศเป็นจำนวนมาก ทสภ. จะมีการเปิดใช้ประตู 3 ที่อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เพิ่มเติม ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ในวันที่ 5-18 เมษายน 2564 หลังจากที่ปิดประตูตามมาตรการคัดกรองผู้โดยสาร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถเข้าอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ได้ที่ประตู 2, 3 และ 9 เท่านั้น นอกจากนี้ ทสภ. ได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้มีความพร้อมในการรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าว อาทิ เพิ่มเจ้าหน้าที่บริเวณจุดตรวจค้นร่างกายและสัมภาระผู้โดยสาร เพิ่มเจ้าหน้าที่จราจรในการให้บริการผู้โดยสารที่บริเวณด้านหน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เพื่อแก้ไขการจราจรคับคั่งในช่วงเวลาที่มีรถเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพิ่มเจ้าหน้าที่ รปภ. และเจ้าหน้าที่ EOD ในการตรวจพื้นที่ และตรวจสอบเฝ้าระวังวัตถุต้องสงสัย


รวมทั้งเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและแนะนำผู้โดยสาร ก่อนเข้าจุดตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระ นอกจากนี้ในส่วนของการให้บริการ ทสภ. ได้จัดเตรียมรถเข็นกระเป๋าให้มีจำนวนที่เพียงพอต่อการใช้งานกระจายตามจุดต่างๆ อย่างทั่วถึง และเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดห้องน้ำทุกๆ 10 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการยกระดับการให้บริการด้านการคมนาคมขนส่ง ทสภ. ได้เปิดให้บริการจองรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น AOT AIRPORTS APPLICATION ซึ่งจะให้บริการเฉพาะผู้ใช้บริการที่ ทสภ. ที่ดาวน์โหลด APPLICATION แล้วเท่านั้น โดยต้องอยู่ในรัศมีการให้บริการภายใน ทสภ. ไม่เกิน 1 กิโลเมตร ผู้ใช้บริการสามารถกดจองรถแท็กซี่ โดยจะเลือกเป็นรถแท็กซี่ทั่วไปหรือรถแท็กซี่ขนาดใหญ่ก็ได้ หลังจากกดยืนยันการจองระบบจะแสดงหน้าจอ หมายเลขทะเบียนรถ ชื่อคนขับ และหมายเลขช่องจอดรถ ให้ผู้ใช้บริการเดินไปรอยังจุดจอดรถที่ช่องจอดที่ระบุไว้ บริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 ภายในระยะเวลาไม่เกิน 15 นาที และเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ทสภ. ได้กำชับให้สมาชิกผู้ขับขี่รถแท็กซี่ต้องสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการให้บริการและต้องทำความสะอาดภายในรถ รวมถึงเบาะนั่งด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกครั้งทั้งก่อนและหลังการให้บริการด้วย

นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ ทสภ. ได้ยกเว้นอัตราค่าบริการจอดรถยนต์ที่ลานจอดรถยนต์ระยะยาวโซน C ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 เวลา 08.00 น. จนถึงวันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 เวลา 17.00 น. รวม 8 วัน โดยลานจอดรถโซนดังกล่าวสามารถรองรับรถยนต์ได้ จำนวน 718 คัน ทั้งนี้ ทสภ. มีรถ Shuttle Bus สาย A วิ่งให้บริการรับ-ส่ง ผู้โดยสารทุกๆ 15 นาที ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง


และนอกจากลานจอดรถยนต์ระยะยาวโซน C แล้ว ทสภ. ยังมีอาคารและลานจอดรถยนต์โซนอื่นๆ รองรับการให้บริการ ได้แก่ อาคารจอดรถยนต์โซน 3 รองรับช่องจอดได้ 2,038 คัน, ลานจอดรถโซน 4 รองรับช่องจอดได้ 251 คัน, ลานจอดรถโซน 5 รองรับช่องจอดได้ 455 คัน, ลานจอดรถโซน 6 มีหลังคากันแดด รองรับช่องจอดได้ 689 คัน และลานจอดรถโซน 7 มีหลังคากันแดด รองรับช่องจอดได้ 666 คัน โดยคิดอัตราค่าบริการชั่วโมงละ 25 บาท หากเกิน 7 ชั่วโมง จะคิด เป็นอัตราเหมาวันละ 250 บาท ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการอาคารจอดรถยนต์ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2132 9511 ตลอด 24 ชั่วโมง

นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่า ที่ผ่านมา ทสภ. ได้ให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข โดยเน้นย้ำในการดูแลรักษาความสะอาดในทุกพื้นที่ภายในท่าอากาศยาน รวมถึงบริเวณพื้นที่จุดสัมผัสต่างๆ เช่น ห้องน้ำ ลิฟต์ ทางเดินเลื่อน แบบ Deep Cleaning อย่างต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และได้ขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการทุกคนต้องถือปฏิบัติยึดหลักวิถีบินใหม่ D – M – H – T – T ซึ่งประกอบด้วย D (DISTANCING) เว้นระยะห่างกัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่น M (MASK- WEARING) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา H (HAND WASHING) หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ T (TEMPERATURE CHECK) ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และ T (THAICHANA) สแกนแอปพลิเคชันไทยชนะ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย