โชว์ผลงานฉลอง 69 ปี ดันส่งออกฝ่าวิกฤตโควิด-19

นนทบุรี 12 มี.ค.-อธิบดี DITP ปลื้มผลงานฉลอง 69 ปี นำส่งออกฝ่าวิกฤตโควิด-19 พร้อมกางแผนลุยปั๊มรายได้ช่วง 6 เดือน หวังให้การส่งออกปีนี้เป็นบวกได้ร้อยละ 4


นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 มีนาคม 2564 กรมฯ ได้ครบรอบวันสถาปนา 69 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 70 โดยผลการดำเนินงานในการขับเคลื่อนการส่งออกทุกช่องทาง โดยเฉพาะการผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการของไทย และนำรายได้เข้าประเทศได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าไทยและทั่วโลกจะประสบกับวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งได้ปรับรูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าสำคัญจากออฟไลน์ เป็นออนไลน์ และจัดแบบเสมือนจริง มีงานแสดงสินค้าที่ประสบความสำเร็จ เช่น งานแสดงสินค้าออนไลน์ดิจิทัล คอนเทนต์แบบครบวงจร , งานแสดงสินค้าอาหารและงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม , งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการจัดงานแสดงสินค้าแบบ Mirror-Mirror ที่นำสินค้าไปจัดแสดง ผู้ประกอบการไม่ต้องเดินทางไป แต่สามารถขายสินค้าได้ผ่านทางออนไลน์ รวมทั้งยังมีการจัดเจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งในช่วงการจัดงานแสดงสินค้า และจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์เฉพาะสินค้า และยังได้เพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการค้าออนไลน์ข้ามพรมแดน โดยร่วมมือกับแพลตฟอร์มออนไลน์ในต่างประเทศ เปิดร้าน TOPTHAI เช่น Amazon สหรัฐฯ , Tmall ในเครืออาลีบาบา จีน , Bigbasket อินเดีย และ  klangthai.com กัมพูชา จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น Live Streaming ประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทย ซึ่งภายใน 15 นาที มีผู้ชมชาวจีนกดไลค์กว่า 16 ล้านไลค์ จัดกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการการค้าออนไลน์ ทั้ง SMEs ผู้ประกอบการรายใหม่ และนักศึกษา เป็นต้น


ขณะเดียวกัน กรมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) โดยได้มีการมอบของขวัญและร่วมทำบุญ ณ สถานสงเคราะห์เด็ก มูลนิธิสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมองและปัญญา (บ้านเฟื่องฟ้า) นนทบุรี เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2564 และจัดกิจกรรม DITP Calories for Charity ระหว่างวันที่ 11 กุมภาพันธ์-11 มีนาคม 2564 ในคอนเซ็ปต์ ท้า ทำ สมทบ (ทุน) เป็นการท้าให้ออกกำลังกายด้วยการเดิน วิ่ง เพื่อลดแคลอรี่ และนำรายได้ไปบริจาคให้กับสถานีไออุ่น เพื่อน้องๆ นักเรียนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่โรงเรียนร่มเกล้าปางตอง และโรงเรียนบ้านห้วยมะเขือส้ม อ.เมืองแม่ฮ่องสอน

 สำหรับแผนการทำงานขับเคลื่อนการส่งออกในปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่ 70 ของการก่อตั้ง กรมฯ ได้กำหนดแผนการทำงานเร่งด่วนในช่วง 6 เดือน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา โดยมีกิจกรรมที่จะดำเนินการรวมทั้งสิ้น 106 กิจกรรม แยกเป็นการเจรจาธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching – OBM) กำหนดจัด 21 ครั้ง เน้นสินค้าทุกกลุ่มและทุกประเทศ เช่น ผัก ผลไม้ ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง สินค้าฮาลาล ประมง แฟชั่น ชิ้นส่วนยานยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องมือแพทย์ ของตกแต่งบ้าน พลาสติกและผลิตภัณฑ์ และสินค้าจากวิสาหกิจเพื่อสังคม และยังมีแผนที่จะนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ รวม 11 ครั้ง เช่น งานแสดงสินค้า Gulfood 2020 , Foodex Japan 2021 , Seoul Food & Hotel 2021 , Automechanika Dubai 2021 การจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าฮาลาลเยือนตลาดเป้าหมาย เช่น อียิปต์ อินโดนีเซีย กัมพูชา จีนและอินเดีย เป็นต้น

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าไทย กำหนดจัด 24 ครั้ง แยกเป็นการจัดงานแสดงสินค้า Top Thai Brands 2021 ในอาเซียน 7 ครั้ง ที่พนมเปญ เชียงขวาง ไชยะบุรี ฮานอย โฮจิมินห์ ย่างกุ้ง มะนิลา จัดกิจกรรมในตลาดจีน 4 โครงการ ได้แก่ การลงนาม MOU ด้านความร่วมมือทางการค้าระหว่างกรมฯ กับกรมพาณิชย์ไห่หนาน , โครงการส่งเสริมการขายผ่านช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ในฮ่องกง , โครงการจัด Thai Pavilion ในงาน China International Consumer Products Expo Hainan Expo และ Top Thai Brands Kunming 2021 จัดกิจกรรมในเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย 7 โครงการ ได้แก่ สร้างภาพลักษณ์สินค้า Cartoon Character และสินค้าเครื่องปรุงรสไทยในงาน Sydney Royal Easter Show 2021 , การพัฒนาสินค้าท้องถิ่น และอีกหลายกิจกรรม


นอกจากนี้ ในปี 2564 มีแผนนำร่องจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้านวัตกรรมที่คำนึกถึงสิ่งแวดล้อมสู่ตลาดเกาหลี เพื่อประชาสัมพันธ์และเพิ่มโอกาสส่งออกให้กับสินค้าไทยในกลุ่มของใช้ภายในบ้าน ของตกแต่งบ้าน และสินค้าแฟชั่นและสิ่งทอ โดยมีกำหนดจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์ช่วงวันที่ 29-31 มีนาคม 2564 นี้ เพื่อสร้างโอกาสในการขยายตลาดส่งออกให้กับสินค้าและบริการของไทย และผลักดันให้การส่งออกของไทยในปี 2564 มีการขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ประเมินไว้ที่ร้อยละ 4 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]