คลังระบุคนไทยรับสิทธิ์”เราชนะ”แล้วกว่า 30.5 ล้านคน

ระทรวงการคลัง 3 มี.ค.-กระทรวงการคลังพร้อมโอนเงินให้กลุ่มช่วยเหลือพิเศษที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์โครงการ”เราชนะ”งวดแรก 5 มีนาคม ตรวจสอบคุณสมบัติผ่านแล้ว 500,000 คน ยอดรวมผู้ได้รับสิทธิ์ทั้งหมดมีจำนวนกว่า 30.5 ล้านคนแล้ว


นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการคัดกรองคุณสมบัติสำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะระหว่างวันที่ 15 – 21 กุมภาพันธ์ 2564 ประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถตรวจสอบสถานะการคัดกรองคุณสมบัติได้ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ได้ตั้งแต่วันนี้(3 มี.ค.) เป็นต้นไป โดยจะได้รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรกจำนวน 4,000 บาท ในวันที่ 5 มีนาคม 2564 และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ดังกล่าวผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ผ่านผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ

สำหรับประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและสละสิทธิ์ด้วยเหตุผล “ไม่มีสมาร์ทโฟน” และได้มาลงทะเบียนในช่องทางเดียวกันกับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 15 – 21 กุมภาพันธ์ 2564 จะสามารถทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติได้ในวันที่ 11 มีนาคม 2564 และจะมีการโอนวงเงินสิทธิ์ให้กับผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติในวันที่ 12 มีนาคม 2564 เนื่องจากอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องในฐานข้อมูลของผู้ขอสละสิทธิ์ดังกล่าว


ทั้งนี้ ความคืบหน้าของโครงการฯ ณ วันที่ 3 มีนาคม 2564 1) ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ระหว่างวันที่ 15 – 21 กุมภาพันธ์ 2564 และผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 0.5 ล้านคน 2) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 33,561.6 ล้านบาท และ 3) ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว มีจำนวนมากกว่า 16.3 ล้านคนการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 37,162.5 ล้านบาท

ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์โครงการฯ รวมทั้งสิ้นจำนวน 30.5 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 70,724.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.1 ล้านกิจการ โดยจังหวัดที่มีผู้ใช้วงเงินสิทธิ์สูงสุด 5 ลำดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา อุบลราชธานี ขอนแก่น และเชียงใหม่ -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่