กรมส่งเสริมการเกษตร 19 ก.พ.-กรมส่งเสริมการเกษตรเดินหน้า“ยกระดับเกษตรกร ฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน” ส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรดำเนินธุรกิจการเกษตรและการเข้าถึงเทคโนโลยีสร้างรายได้แต่ละชุมชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินโครงการยกระดับเกษตรกร ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติให้ใช้เงินกู้ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 2 โครงการได้แก่ โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด และโครงการพัฒนาธุรกิจบริการด้านดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) ซึ่งเป็นการส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกร สู่การดำเนินการในรูปแบบธุรกิจเกษตร สร้างโอกาสให้เกษตรกรเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสม
สำหรับโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดมีเป้าหมายพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน โดยส่งเสริมให้เกษตรกรทำงานในรูปแบบเครือข่าย พัฒนากระบวนการผลิตให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน การผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง การใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิการผลิต สร้างตราสินค้า (Brand) มีระบบตรวจสอบย้อนกลับ เงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ คือ ต้องเป็นแปลงใหญ่ที่ผ่านการรับรองและอยู่ในระบบ Co-farm.doae.go.th ของกรมส่งเสริมการเกษตรที่ได้เสนอความต้องการเข้าร่วมโครงการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณไว้แล้ว จำนวน 5,250 แปลง โดยเป็นแปลงใหญ่ที่จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ประเภทนิติบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การขอรับการสนับสนุนงบประมาณต้องไม่เกินวงเงินเดิมที่เคยเสนอขอความต้องการและได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว รวมทั้งต้องดำเนินกิจกรรมที่ไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการอื่น ๆ
ปัจจุบันมีกลุ่มแปลงใหญ่แจ้งเข้าร่วมโครงการแล้ว 1,555 แปลง เป็นกลุ่มแปลงใหญ่ที่จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ประเภทนิติบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 879 แปลง และกลุ่มแปลงใหญ่ที่อยู่ระหว่างจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ประเภทนิติบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 676 แปลง
ส่วนโครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service) เป็นการส่งเสริมการใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ ได้แก่ ยกระดับการทำงานของศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ที่มีอยู่ให้เป็นกลไกหลักของชุมชนในการให้บริการด้านดินและปุ๋ย รวมทั้งส่งเสริมการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน เพื่อลดต้นทุนการผลิต ช่วยสร้างธุรกิจให้เกิดขึ้นในชุมชนจะสนับสนุนปัจจัยการผลิต เพื่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในรูปแบบธุรกิจชุมชน ตัวอย่างโมเดลธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชนของศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน ต.หนองค้า อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ ปัจจุบันมีสมาชิก 176 ราย ได้ดำเนินการในเชิงธุรกิจ มีการให้บริการตรวจวิเคราะห์ดิน ให้คำแนะนำการจัดการดินปุ๋ยที่ถูกต้อง บริการจัดหาแม่ปุ๋ยและผสมปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินหรือปุ๋ยสั่งตัด ซึ่งเป็นปุ๋ยเต็มสูตรและใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ศูนย์ผลิตเองเป็นตัวเติมเต็ม มีการวางแผนบริหารจัดการกิจกรรมศูนย์อย่าง จึงสามารถสร้างรายได้และมีเงินทุนหมุนเวียนหลายล้านบาท
นายเข้มแข็งกล่าวอีกว่า ทั้ง 2 โครงการจะช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรในชุมชนต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้นตามนโยบายรัฐบาล-สำนักข่าวไทย