กลุ่มต้องช่วยเหลือพิเศษ ลงทะเบียน “เราชนะ” 2 วันแรกกว่า 2 แสนราย

กรุงเทพฯ 16 ก.พ.-โฆษก ก.คลัง เผยกลุ่มต้องช่วยเหลือพิเศษ ลงทะเบียน “เราชนะ” 2 วันแรกกว่า 2 แสนราย แนะผู้ไม่ผ่านคัดกรองยื่นทบทวนสิทธิ


นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าของการเปิดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะ (โครงการฯ) สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง รวมถึงผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง โดยในสองวันแรกมีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 218,344 คน (ข้อมูล ณ เวลา 17.00 น.)

ทั้งนี้ ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวที่สนใจและประสงค์จะสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ต้องนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ไปลงทะเบียนที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) ด้วยตนเอง ไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อยืนยันตัวตน อันจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทะเบียนเอง และป้องกันไม่ให้มีการสวมสิทธิ์ โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อขอคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 และไม่มีการจำกัดจำนวนสิทธิ์


นอกจากนี้ ธนาคารกรุงไทยได้จัดระบบการลงทะเบียนโครงการฯ ที่สาขาจำนวน 1,023 แห่งทั่วประเทศและจุดบริการเคลื่อนที่จำนวน 871 จุดทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการ
ความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่มีความประสงค์จะลงทะเบียน โดยแต่ละสาขาหรือจุดบริการจะแจกบัตรคิวลงทะเบียนตามจำนวนประชาชนที่สามารถรองรับได้สูงสุดในแต่ละวัน ส่วนประชาชนที่เข้ามาติดต่อขอลงทะเบียนที่เกินจากจำนวนนั้น ธนาคารจะแจกบัตรคิวและนัดหมายเพื่อให้มาลงทะเบียนในวันหลัง โดยจะระบุวันและเวลาที่แน่นอน นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุกแจ้งข่าวสารของโครงการฯ ให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน

สำหรับประชาชนในกลุ่มผู้มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และกลุ่มที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ตรวจสอบสถานะแล้วพบว่าไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติสามารถยื่นขอทบทวนสิทธิ์ ทางเว็บไซต์ดังกล่าวได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 8 มีนาคม 2564 โดยผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ระหว่างวันที่ 8 – 21 กุมภาพันธ์ 2564 จะทราบผลการทบทวนสิทธิ์ในวันที่ 4 มีนาคม 2564 และผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564 จะทราบผลการทบทวนสิทธิ์ในวันที่ 19 มีนาคม 2564 ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ เนื่องจากมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2562 เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 (แบบฯ) ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของกรมสรรพากรภายใน 7 วัน นับแต่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ แต่ต้องไม่เกินวันที่ 8 มีนาคม 2564 อย่างไรก็ดี ผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์ระหว่างวันที่ 8 – 9 กุมภาพันธ์ 2564 จะต้องยื่นแบบฯ ภายในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 โดยผู้ที่ยื่นขอทบทวนสิทธิ์เนื่องจากมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษี 2562 เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดและยื่นแบบฯ แล้ว จะสามารถทราบผลการคัดกรองได้ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564

ที่ผ่านมากระทรวงการคลังพบว่ามีประชาชนหรือร้านค้าและผู้ให้บริการรายย่อยที่ใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการฯ โฆษกกระทรวงการคลังจึงขอความร่วมมือร้านค้า ผู้ให้บริการรายย่อยและประชาชนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการฯ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ประสานขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินการทางกฎหมายในประเด็นดังกล่าวแล้ว
หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (เครื่อง EDC) หรือ แอปพลิเคชันของร้านค้าและผู้ให้บริการรายย่อย ตลอดจนการจ่ายเงินให้กับร้านค้าและผู้ให้บริการรายย่อยทันที และอาจดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ทั้งนี้ ร้านค้าโครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ร้านค้าในโครงการคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการ/ร้านค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่ถูกระงับใช้ เครื่อง EDC หรือแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สามารถติดต่อและให้ข้อมูลได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทยหรือส่งข้อมูล รวมถึงชื่อสถานประกอบการ ชื่อและนามสกุลของเจ้าของสถานประกอบการ หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (ถ้ามี) หมายเลขประจำตัวประชาชนของเจ้าของสถานประกอบการ และหมายเลขเครื่อง EDC (ถ้ามี) และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ มาที่ wewin@fpo.go.th โดยเร็วเพื่อให้กระทรวงการคลังดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้