กรุงเทพฯ 4 ก.พ.-กรมป่าไม้ เตรียมแจ้งความเพิ่มเติม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ และน้องสาว บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ จ.ราชบุรี เนื้อที่รวม 2,154 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 147 ล้านบาท
หลังจากกรมป่าไม้และศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้วกับ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในความผิดใช้เอกสาร ภ.บ.ท.5 และ น.ส.2 ยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติแบบผิดกฎหมาย เนื้อที่รวม 440 ไร่ และได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา และได้ส่งเรื่องราวให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการตามมูลฐานความผิดการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถือเป็นมูลฐานความผิดของกฎหมายฟอกเงิน ซึ่งดำเนินการไปแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมประเมินความเสียหายภาครัฐ เพื่อดำเนินการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายภาครัฐตามระเบียบ และกฎหมาย
ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่ของชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ได้สืบสวนสอบสวนพบว่า ยังมีการนำเอกสารสิทธิที่ดินประเภท น.ส.3 ก ที่เป็นเอกสารที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกจำนวนมาก ของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ, น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อีกจำนวนไม่น้อยกว่า 60 ฉบับ (รวมเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ ) นำมายึดถือครอบครองที่ดิน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมขยายผลสืบสวนสอบสวน ตรวจสอบต่อเนื่องจนถึงวันนี้
ผลจากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ที่มีการครอบครองทำประโยชน์ อยู่ในท้องที่ ต.รางบัว ,ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ต่อเนื่องขนาดใหญ่เนื้อที่ประมาณไม่ต่ำกว่า 3,000 ไร่เศษ มีการใช้ประโยชน์โดยปลูกยูคาลิปตัสต่อเนื่องทั้งพื้นที่ สืบทราบมีการจ้างเฝ้าดูแลพื้นที่โดยกลุ่มบุคคลในพื้นที่ (เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ด่านท่าตะโก) สืบสวนสอบสวนพบว่าพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมดถูกครอบครอง โดยใช้เอกสารสิทธิประเภท น.ส.3ก ที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 60 ฉบับ ตรวจสอบพบผู้ครอบครอง น.ส.3ก คือ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 53 ฉบับ เนื้อที่ 1,940-3-93 ไร่ เป็นของ นางสาวชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 5 ฉบับ เนื้อที่ 132-0-22 ไร่ และของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 2 ฉบับ เนื้อที่ 81-3-67 ไร่ รวมเนื้อที่ 2,154-3-82 ไร่
โดยในวันนี้คณะเจ้าหน้าที่นำโดยนายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษได้ยื่นหนังสือถึงพลตำรวจตรีพิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายต่อไป และจะดำเนินการส่งเรื่องราวให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินการตามมูลฐานความผิดการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถือเป็นมูลฐานความผิดของกฎหมายฟอกเงิน รวมพื้นที่ตรวจยึดดำเนินคดีทั้งหมดเนื้อที่ 2154-3-82 ไร่ ประเมินความเสียหายภาครัฐจำนวน 147,063,223.15 บาท เพื่อดำเนินการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายภาครัฐตามระเบียบ และกฎหมายต่อไป และจะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมที่ดินแปลงอื่นๆ ในบริเวณเดียวกันอีกจำนวนหลายร้อยไร่ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าเอกสารที่ใช้ครอบครองถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายหรือไม่ รวมทั้งพื้นที่อีกประมาณ 30 ไร่ ที่มีตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และพบว่า นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้นำไปมอบให้สถาบันราชภัฏจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งตรวจสอบพบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ จะขยายผลตรวจสอบต่อไปให้ได้ข้อยุติต่อไป รวมทั้งจะตรวจสอบเจ้าหน้าที่ภาครัฐทั้งเจ้าพนักงานที่ดินและเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองที่ได้ร่วมกันออกเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.3ก ทั้ง 60 แปลงด้วย.-สำนักข่าวไทย