fbpx

รฟม.ยันพร้อมร่างเอกสารเชิญชวน สายสีส้มใหม่ภายใน 45 วัน

กรุงเทพฯ 3 ก.พ. -ผู้ว่าการ รฟม. ระบุ หลังคณะกรรมการฯ ม.36 ยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์– มีนบุรี เดิมแล้ว หลังจากนี้ รฟม.จะเร่งดำเนินการยกร่างเอกสารเชิญชวนใหม่ ก่อนนำออกประกาศ คาดใช้เวลาประมาณ 45 วัน เดินหน้าโครงการได้ต่อ


นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ” ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย. หรือ รฟม. กล่าวถึงประเด็นที่คณะกรรมการตามมาตรา 36 มีมติยกเลิกประกาศเชิญชวนการร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์–มีนบุรี เดิมแล้วในวันนี้ ซึ่งจากรายงานการหารือของคณะกรรมการ ม.36 พบว่า หลังจากที่รอผลความคืบหน้าคดีข้อพิพาทมาแล้วระยะหนึ่ง แต่จนถึงปัจจุบันคดียังไม่สิ้นสุด ดังนั้นเพื่อไม่ทำให้ผลของคดี ทำให้เกิดความล่าช้า กระทบไปทั้งโครงการ คณะกรรมการฯ จึงมองเห็นว่าการยกเลิกการประกาศเชิญชวนครั้งที่ผ่านมาจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด โดยการยกเลิกออกประกาศเชิญชวนฯครั้งที่ผ่านมานั้น จะไม่มีผลเชื่อมโยงกับคดีพิพาทฯ ที่อยู่ระหว่างรอคำพิพากษาของศาล เนื่องจากในเอกสารเชิญชวน รฟม.มีการสงวนสิทธิ์การยกเลิกไว้อยู่แล้ว

โดยหลังจากนี้ รฟม. จะเร่งดำเนินการยกร่างเอกสารเชิญชวนใหม่ ก่อนนำออกประกาศให้เอกชนที่สนใจทราบ คาดใช้เวลาประมาณเดือนครึ่ง หรือ 45 วัน จะแล้วเสร็จ ก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการตามมาตรา 36 พิจารณาอนุมัติ อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้สามารถเดินหน้าโครงการต่อไปได้


ทั้งนี้ยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจากการประกาศเชิญชวนครั้งที่ผ่านมา รฟม. จะนำมาถอดบทเรียน ไม่ให้การประกาศเชิญชวนครั้งใหม่เกิดปัญหาในลักษณะเดิมอีก เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นจากการประกาศเชิญชวนครั้งแรก รฟม.ยึดแนวตามข้อมูลเอกสาร PPP โดยการประกาศเชิญชวนรอบใหม่นี้ รฟม.ยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างรอบคอบมากที่สุด

ส่วนประเด็นที่ปัญหาข้อพิพาททำให้ต้องมีการออกประกาศเชิญชวนฉบับใหม่ จะส่งผลให้โครงการล่าช้าจนต้องมีการปรับกำหนดการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าช่วงนี้หรือไม่นั้น ผู้ว่า รฟม.กล่าวว่า ปัญหาข้อผิดพลาดจากการประกาศเชิญชวนรอบแรกส่งผลให้เกิดความล่าช้าประมาณ 4-5 เดือน อยากให้ก็ตามหากโครงการสามารถเดินหน้าต่อไปได้ในอนาคตสามารถไปเร่งรัดงานในส่วนของการติดตั้งระบบรถไฟฟ้าได้ ดังนั้นรฟม. จะยังไม่มีการปรับกำหนดการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าสายนี้ โดยจะยังคงกำหนดการเดิม คือเปิดให้บริการในปลายปี 2567

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม วงเงิน 142,789 ล้านบาท ซึ่งการประกาศเชิญชวนรอบแรก เมื่อเดือน พ.ย.63 มี 2 กลุ่มเข้ายื่นเอกสาร ได้แก่ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) และกลุ่มกิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR) ซึ่งประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) และ, บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC).-สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

ฝ่ายต่อต้านรุกหนัก ถล่มทหารเมียนมาตั้งแต่เช้ามืด

ฝ่ายต่อต้าน รุกหนักถล่มทหารเมียนมา ฐานพัน.ร.275 ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด ตั้งแต่เช้ามืด ทำประชาชนเมียนมา หลบหนีการสู้รบเข้าฝั่งไทยแล้วกว่า 200 คน

“ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง เสียชีวิตแล้ว

“ไพศาล พืชมงคล” โพสต์แสดงความอาลัยการจากไปของ “ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง และบิดาของ “เอ๋-ปารีณา”

ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 41 องศาฯ

กรมอุตุฯ รายงานทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด สูงสุด 41 องศาฯ มีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้น และตกหนักบางแห่ง

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน