บอร์ด คปภ. ไฟเขียวขยายโอกาสลงทุนในบริษัทประกันภัยสู้โควิด

กรุงเทพฯ 2 ก.พ.-บอร์ด คปภ. ไฟเขียว! มาตรการขยายโอกาสการลงทุนในบริษัทประกันภัยสู้ภัยโควิดและพิษอัตราดอกเบี้ยต่ำ


ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 1/2564

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ซึ่งมีนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานฯ ได้มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนของบริษัทประกันภัย เพื่อเป็นการขยายโอกาสในการลงทุน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยสามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุนได้ดียิ่งขึ้นภายใต้สถานการณ์ในปัจจุบันที่เศรษฐกิจไทย อยู่ในภาวะชะลอตัว และยังคงต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในหลายปัจจัย และภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยได้เห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง การลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันชีวิต/บริษัทประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 5) และร่างประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง กำหนดประเภท และชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันชีวิต/บริษัทประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 4) ก่อนนำเสนอประธานบอร์ด คปภ. เพื่อพิจารณาลงนามต่อไป ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวมีสาระสำคัญ ดังนี้


ประการแรก : เปิดช่องทางการลงทุนใหม่ที่ให้บริษัทสามารถลงทุนในกองทุนรวมทั้งในและต่างประเทศที่มีองค์ประกอบเป็นตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-Investment Grade) ได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าสินทรัพย์ลงทุนสุทธิ (NAV) ของกองทุนนั้น และปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนตรงในกรณีที่ผู้ออกตราสารหนี้หรือตราสารหนี้ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่า Investment Grade ที่เดิมต้องจำหน่ายในโอกาสแรกที่กระทำได้ แต่เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นภายใต้สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน จึงอนุญาตให้บริษัทประกันภัยสามารถถือครองตราสารดังกล่าวต่อไปได้ ซึ่งการลงทุนทั้งทางตรงและผ่านกองทุนรวมข้างต้น เมื่อนำไปนับรวมกับสินทรัพย์ลงทุนอื่น ต้องไม่เกินร้อยละ 5 ของสินทรัพย์ลงทุนของแต่ละบริษัท

ประการที่สอง : ปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามระดับความเสี่ยง โดยปรับปรุงค่าความเสี่ยงด้าน Specific Risk จากเดิมที่สูงมากให้ลดลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับภาวะการณ์ปัจจุบันเพื่อให้เงินกองทุนของบริษัทสะท้อนความเสี่ยงของตราสารหนี้ที่บริษัทถือครองอยู่ ในกรณีที่การลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทเป็นไปตามประกาศว่าด้วยการลงทุนประกอบธุรกิจอื่นของบริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย สำหรับการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ และปรับปรุงวิธีพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ที่ออกในต่างประเทศโดยนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย ในการคำนวณเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk) โดยให้ใช้อันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือในประเทศไทย (Local Issuer Rating) ได้โดยอนุโลม

ประการที่สาม : ปรับปรุงวิธีพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ที่ออกในต่างประเทศโดยนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย ในการคำนวณเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยด้านปัจจัยเฉพาะของผู้ออกตราสาร (Specific Risk) โดยให้ใช้อันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือในประเทศไทย (Local Issuer Rating) ได้โดยอนุโลม และผ่อนปรนค่าความเสี่ยงสำหรับการลงทุนในกองทุนรวมตราสารทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Equity Fund) ที่มีสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนที่อยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ของกลุ่มประเทศ developed market ตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป โดยให้บริษัทสามารถคำนวณเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงด้านตลาดจากราคาหน่วยลงทุนโดยวิธีการ look through ตามหลักเกณฑ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หรือคำนวณโดยใช้ค่าความเสี่ยงที่ร้อยละ 25 คูณกับมูลค่าหน่วยลงทุน (Net Asset Value : NAV) ทั้งจำนวน ซึ่งเมื่อเลือกใช้วิธีใดแล้วให้ใช้วิธีนั้นอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ อันเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตและลดความเสี่ยงเชิงระบบ โดยมาตรการนี้ให้มีผลบังคับชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 ปี


“การปรับปรุงหลักเกณฑ์การลงทุนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เปรียบเสมือนการให้วิตามินเสริมศักยภาพและความเข้มแข็งให้กับภาคธุรกิจประกันภัยในการเพิ่มโอกาสให้สามารถกระจายความเสี่ยงในการลงทุนเพื่อสู้กับปัจจัยความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับที่ภาคธุรกิจประกันภัยมีหนังสือขอเข้ามา โดยคณะกรรมการ คปภ. พิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบแล้วเห็นว่าการปรับปรุงดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในภาพรวม ทั้งน่าจะเกิดผลดีต่อภาคธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จะได้ช่วยเหลือติดตามการลงทุนตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนอย่างใกล้ชิด ต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

พลบค่ำโชว์ : “ผอ.คนสวย” เยือนเรื่องพลบค่ำ แห่โฟกัสหน้าเด็กมาก

“ผอ.พีช” ดร.ศรประภา สิริภัทรวิช ผอ.คนสวย แห่งโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย มาเยือนรายการ “เรื่องพลบค่ำ” พูดคุยกับ “กำภู-รัชนีย์” ถึงกระแสฮือฮา กลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน หลังแต่งชุดนักเรียนขึ้นเวทีร้องเพลงในงานปัจฉิมนิเทศ ม.6 ชาวเน็ตแห่โฟกัสหน้าเด็กมาก นึกว่านักเรียน ม.ปลาย

รอเก้อ! ไม่มีนัดเคลียร์ใจ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ไร้เงา “ทักษิณ”

รอเก้อ! ไม่มีนัดเคลียร์ใจ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ไร้เงา “ทักษิณ” ส่วน “เนวิน” พักที่ รร.พูลแมน ประจำ จับตา DSI พรุ่งนี้ รับคดี สว.หรือไม่

“ปวีณา” พาครอบครัว “น้องมายด์” พบ ตร.สากล ขอให้ตรวจสอบการเสียชีวิต

“ปวีณา” พาครอบครัว “น้องมายด์” พบตำรวจสากล เร่งตรวจสอบเสียชีวิตแล้วจริงหรือไม่ ด้านพ่อเผยอยากรู้ลูกตายจริงหรือไม่ และใครเป็นคนทำ ระบุ 6 ปีที่ผ่านมาไม่ได้พบลูกเลย หากเสียชีวิตจริงก็อยากนำกระดูกกลับมาทำพิธีที่บ้านเกิด

“BGF-DKBA” เร่งปราบแก๊งคอลฯ โอดแบกภาระดูแลไม่ไหว

“กกล.BGF-กกล.DKBA” เร่งปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้กว่า 6,900 คน โอดแบกภาระดูแลไม่ไหว ขอ ไทยประสานสถานทูตรีบรับตัวกลับโดยเร็ว