รวบผู้ต้องหาขโมยทรัพย์สินผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

29 ม.ค.-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิร่วมกับสถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมผู้ต้องหาขโมยทรัพย์สินผู้โดยสาร

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 เวลา 17.10 น. ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยว สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันจับกุม นายณัฐกิตติ์ ดิษสวน ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน ณ บริเวณอาคารผู้โดยสารชั้นใต้ดิน (ชั้น B1)


สืบเนื่องมาจาก นายจักรวาล อาหมัด อายุ 21 ปี ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 เวลาประมาณ 10.30 น. ได้ทำ IPAD (เคสสีดำ) ราคาประมาณ 30,000 บาท ลืมไว้ในห้องน้ำชายที่อาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 หลัง Row S ซึ่งเป็น IPAD ของนางสาว นุชนารถ ปิ่นแก้ว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ทอท. ได้ร่วมกันตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยนายจักรวาลฯ ผู้เสียหาย สามารถจำหน้าผู้ชายต้องสงสัยได้ตอนที่เดินสวนกันออกจากห้องน้ำ ซึ่งผู้ต้องสงสัยได้เดินออกจากห้องน้ำพร้อมสะพายกระเป๋าเป้สีดำแล้วเดินไปนั่งบริเวณชั้น B 1 ทางเข้ารถไฟใต้ดิน (Airport Rail Link) เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามไปแสดงตัวขอตรวจค้นผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อว่า นายณัฐกิตติ์ ดิษสวน และแจ้งให้ทราบว่ากำลังตามหา IPAD ที่หายไป โดยนายณัฐกิตติ์ฯ ได้หยิบ IPAD ออกจากกระเป๋าเป้สีดำส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำตัวนายณัฐกิตติ์ ฯ พร้อม IPAD ของกลาง มายัง สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยนายจักรวาล อาหมัด (ผู้เสียหาย) พร้อมกับ นางสาว นุชนารต ปิ่นแก้ว (เจ้าของ IPAD) ได้ยืนยันว่าเป็น IPAD ของตนที่หายไป และได้ตรวจสอบ IPAD พบว่าไม่มีความเสียหายแต่อย่างใด เบื้องต้นนายณัฐกิตติ์ ดิษสวน ให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเองได้ไปเจอ IPAD ดังกล่าวในห้องน้ำชายอาคารผู้โดยสาร ชั้น 4 ROW S ได้หยิบใส่กระเป้สีดำ และเดินออกจากห้องน้ำไปนั่งบริเวณทางเข้ารถไฟใต้ดิน อาคารผู้โดยสารชั้น B1 เพื่อรอรับลูกค้า ซึ่งตนเองเป็นพนักงานขับรถอิสระ จะรอลูกค้าจนถึงเวลาสองทุ่ม แล้วจะนำ IPAD ที่เจอ ไปแจ้งตำรวจที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ส่วนหลัง) ซึ่งไม่รู้ว่ามี สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ส่วนหน้า) อยู่ที่ภายในอาคารผู้โดยสาร ทสภ. ชั้น 1 ด้วย จึงไม่ได้นำ IPAD ดังกล่าวมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและก็มิได้นำไปส่งคืนให้กับเคาน์เตอร์บริการทรัพย์สินสูญหาย (LOST PROPERTY )แต่อย่างใด แต่จากหลักฐานที่ยืนยันว่าเจ้าตัวได้หยิบ IPAD ไปนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมพร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในท่าอากาศยานหรือรับของโจร” ต่อนายณัฐกิตติ์ ดิษสวน และได้ทำบันทึกจับกุมส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ซึ่งความผิดในข้อหา “ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน” ตามมาตรา 335 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปีหรือปรับ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ทสภ. ให้ความสำคัญในการดูแลรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้บริการทุกท่าน โดยมีฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทสภ. ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทั้งตำรวจและทหาร เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา เพื่อเพิ่มความอุ่นใจแก่ผู้ใช้บริการ ทสภ. หากผู้ใช้บริการท่านใดพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือประสบเหตุด่วน เหตุร้าย สามารถแจ้งศูนย์รักษาความปลอดภัย ทสภ. โทรศัพท์ 0 2132 4000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”