เร่งสอบสาเหตุช้างเขาใหญ่ทำร้ายนักท่องเที่ยวเสียชีวิต

กรุงเทพฯ  20 ม.ค.- รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ระบุคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ  ยังคงสอบสวนสาเหตุ “เจ้าดื้อ” ช้างเขาใหญ่  ทำร้ายนักท่องเที่ยวเสียชีวิต โดยระหว่างนี้ ได้ปิดลานกางเต็นท์ทั้งที่ผากล้วยไม้  และลำตะคอง ตรวจสัญญาณจากปลอกคอ


นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชแถลงความคืบหน้าการดำเนินการกรณีช้างเขาใหญ่ทำร้ายนักท่องเที่ยวเสียชีวิตที่ลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ โดยระบุว่า คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกำลังตรวจสอบรายละเอียดทุกด้าน จึงยังไม่สรุปว่า สาเหตุที่ช้างตัวกล่าวเข้ามาทำร้ายนักท่องเที่ยวเป็นเพราะอะไร เกิดจากภาวะตกมัน หรือหงุดหงิดจากการติดปลอกคอระบุพิกัด (GPS Collar)

สำหรับการติดปลอกคอนั้น รศ. รองลาภ สุขมาสรวง คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้ทำวิจัยกล่าวว่า ได้ขออนุญาตกรมอุทยานแห่งชาติตามระเบียบในการทำวิจัย ติดปลอกคอเพื่อศึกษาเส้นทางหากินของช้างเขาใหญ่ โดยเลือกช้างที่มาติดปลอกคอจากตัวที่นำโขลง ก่อนติดที่ต้องยิงยาช้าง เป็นยาซึม ไม่ใช่ยาสลบ การติดเป็นไปตามหลักวิชาการที่ทำกันในหลายประเทศ ช้างจะรู้สึกไม่คุ้นอยู่ 2-3 วัน ที่ผ่านมาไม่พบว่า เป็นเหตุให้ช้างหงุดหงิด จากการตรวจสอบล่าสุด วันนี้ (20 ม.ค.) เจ้าดื้ออยู่ห่างจากผากล้วยไม้ประมาณ 2 กิโลเมตร เดินตามลำตะคอง มุ่งหน้ายังน้ำตกเหวสุวัต


นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ (อช.) เขาใหญ่กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ได้ปิดลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้และลำตะคองชั่วคราว โดยลานผากล้วยไม้อาจเสนอให้ปิดถาวร คงเหลือเฉพาะลานลำตะคองซึ่งกำลังเตรียมอุปกรณ์เตือน หากมีช้างเข้ามาใกล้ เป็นเส้นเอ็นขึงรอบลาน หากช้างมาแตะ จะส่งสัญญาณเสียงไปยังเจ้าหน้าที่ เพื่อให้มาผลักดันได้ทัน ไม่เกิน 10 วันแล้วเสร็จ นอกจากนี้ตรวจสอบแล้วว่า ลานลำตะคองอยู่นอกเส้นทางหากินของสัตว์ป่า มีเฉพาะกวางเท่านั้นที่เข้ามา

นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือหมอล็อต สัตวแพทย์กรมอุทยานแห่งชาติกล่าวว่า ประเด็นที่ถกเถียงกันว่า เจ้าดื้ออยู่ในภาวะตกมันหรือไม่นั้น ช้างจะมีระดับฮอร์โมนเพศสูงช่วงปลายฝนต้นหนาวเนื่องจากในฤดูฝนกินอาหารสมบูรณ์ ภาวะนี้มี 4 ระยะ โดย 2 ระยะแรกยังไม่เห็นน้ำมันไหลบริเวณบริเวณใบหน้า แต่ระยะที่ 3-4 จะเห็นน้ำมันไหลได้ แม้อยู่ในช่วง 2 ระยะแรก หากมีปัจจัยกระตุ้น อาจทำให้ช้างเปลี่ยนพฤติกรรมชั่วคราวได้ ดังนั้นการเข้าท่องเที่ยวในถิ่นของสัตว์ จึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำเช่น ที่เขาใหญ่ได้แนะนำมาตลอดว่า หากพบช้างต้องทำอย่างไร นอกจากนี้ ไม่ควรให้อาหารแก่สัตว์ป่า ทำให้พฤติกรรมสัตว์ป่าเปลี่ยนได้ .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เสียใจ “เจจูแอร์” ไถลออกรันเวย์ สั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

นายกฯ แสดงความเสียใจเหตุเครื่องบินสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกรันเวย์ไฟลุกท่วม พร้อมสั่งตรวจสอบช่วยเหลือหากมีคนไทย

28 dead as jet carrying 181 people crashes while landing in S. Korea's Muan

เครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปเกาหลีใต้ชนหลังออกนอกรันเวย์

โซล 29 ธ.ค.- เครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาหลีใต้ ลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหรือรันเวย์ และชนกับรั้วกั้นที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้ รายงานว่า ตำรวจและนักดับเพลิงในเกาหลีใต้แจ้งว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.07 น. วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 07.07 น. วันนี้ตามเวลาไทย เมื่อเครื่องบินของเจจูแอร์ เที่ยวบิน 7ซี2216 (7C2216) นำผู้โดยสาร 175 คน ลูกเรือ 6 คน เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 288 กิโลเมตร เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์และชนกับรั้วกั้น เป็นเหตุให้เครื่องบินได้รับความเสียหายอย่างหนักและเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 28 คน ทั้งหมดนั่งอยู่ที่ส่วนท้ายของเครื่องบิน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากไทย มีเพียง 2 คนที่เป็นชาวไทย เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟที่ไหม้ครื่องบินได้แล้ว และกำลังปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งเริ่มการสืบสวนสอบสวน ณ […]

อุณหภูมิลดอีก 1-3 องศาฯ “อีสาน-เหนือ” อากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อุณหภูมิลดลงอีก 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานและเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็น ภาคใต้ฝนเพิ่ม ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางเทศกาลปีใหม่ 2568

เกาะติดทุกโหมดการเดินทางขาออกเทศกาลปีใหม่ 2568 ถนนทุกสาย และระบบขนส่งสาธารณะทุกโหมด มีประชาชนทะลักเดินทางตั้งแต่เย็นวานนี้ (27 ธ.ค.) ภาพรวมเป็นอย่างไร พูดคุยกับนายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม.