คาดราคาทองคำโลกปีนี้เทียบเท่านิวไฮปี 63


กรุงเทพฯ 6 ม.ค. -ตลาดทองคำพุ่งรับศักราชใหม่ เทรนด์ขาขึ้นชัดเจนทั้งระยะกลาง-ระยะยาว มีลุ้นแตะ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์


นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง ประเมินว่าราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น จากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ประกอบกับ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก  ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า  มีกองทุน กลับมาเข้ามาซื้อทองคำตลาดโลกเป็นจำนวนมาก โดยมองว่า ปีนี้ ราคาสปอต จะกลับไปสู่จุดนิวไฮ เช่นเดียวกับปีที่แล้ว ที่ 2,074 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ แต่จากเงินบาทไทยแข็งค่า ก็อาจทำให้ราคาในไทยไปเข้าสู่นิวไฮ โดย อาจจะสูงสุดราว 28,800 บาทต่อบาททองคำ  

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า หลังจากตลาดทองคำเปิดซื้อขายเต็มรูปแบบในปี 2564 ทองคำเปิดตลาดเคลื่อนไหวในแดนบวก และสามารถผ่านยืนเหนือ 1,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้เทรนด์ระยะกลางสดใสหลังราคาทะลุกรอบไซด์เวย์ดาวน์ ที่ดำเนินมาเป็นเวลา 5 เดือน

ส่วนระยะยาวนั้นยังคงเป็นขาขึ้นต่อไป แม้ว่าช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2563 ราคาทองคำจะปรับลดลงไปบ้าง ซึ่งช่วงนั้นกองทุน SPDR ได้ทยอยขายทองคำออกมาบางส่วน แต่ล่าสุดช่วงใกล้สิ้นปี 2563 กองทุน SPDR ได้กลับเข้ามาซื้อทองคำเข้าพอร์ตอีกครั้ง จึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดทองคำ


อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นมาของราคาทองในช่วงนี้มาจากปัจจัยหลัก 2 ปัจจัย ได้แก่ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะที่ล่าสุด ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ได้ลงนามอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังรอบใหม่มูลค่า 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงมีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็น่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 3 ออกมาเช่นกัน

ส่วนปัจจัยที่ 2 ที่ส่งผลให้ราคาทองคำขยับขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญคือการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากค่าเงินปอนด์ที่แข็งค่าหลังจากที่อังกฤษและสหภาพยุโรปสามารถตกลงมาตรการด้านการค้าลุล่วงจากกรณี BREXIT นอกจากนี้การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังของสหรัฐยังส่งผลต่อให้การคาดการณ์เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และทองคำจึงเป็นทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ดี

ทั้งนี้เมื่อปี 2563 เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 7% ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น 25% โดยในปีนี้นักวิเคราะห์จากต่างประเทศยังได้คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ อีกทั้งธนาคารกลางหลายประเทศได้ลดสัดส่วนการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ และได้หันไปถือครองเงินสกุลอื่นรวมถึงทองคำเพิ่มขึ้น ส่วนระยะยาวนั้นทองคำยังเป็นขาขึ้นอีก 1-2 ปี เพราะอัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ในระดับต่ำถึงปี 2566

สำหรับทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองในช่วงนี้แม้ทิศทางจะเป็นขาขึ้น แต่อาจจะมีการขายทำกำไรออกมาในบางช่วง โดยนักลงทุนสามารถเข้าทยอยเข้าซื้อสะสมได้ แต่เน้นทำกำไรระยะสั้นเป็นรอบๆ แนะนำจับตาแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,965 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากผ่านได้จะเพิ่มโอกาสที่ราคาจะแตะ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สามารถเข้าซื้อเมื่อย่อตัวที่แนวรับ 1,921 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยกำหนดจุดตัดขาดทุนไว้ในบริเวณ 1,907 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล