กรุงเทพฯ 2 ม.ค. – ก.คลัง จ่อเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ ปลายเดือนมกราคมนี้ เล็งปรับเกณฑ์คุณสมบัติ วางกรอบคิดรายได้เป็นครัวเรือน เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้มีสิทธิไม่ถึง 14.6 ล้านคน
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สศค. เตรียมความพร้อมในการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ คาดว่าจะออกรายละเอียดได้ช่วงต้นปีนี้ แต่ยังไม่มีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน แต่มีแนวทางที่จะมีการปรับหลักเกณฑ์ เพื่อหาข้อสรุปประเด็นสำคัญ คือดูเรื่องรายได้เป็นรายครอบครัว
โดยจะเป็นไปตามแนวทางของนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่วางกรอบว่าในช่วงต้นปี 2564 กระทรวงการคลังจะเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ โดยเงื่อนไขที่จะลงทะเบียนจะอิงรายได้ครัวเรือน แทนรายได้ส่วนบุคคลที่กำหนดต้องมีไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี พร้อมพิจารณาการขยายสวัสดิการที่จะให้เพิ่มเติม
คาดการณ์ว่าการลงทะเบียนรอบใหม่จะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ ซึ่งจะไม่กระทบผู้ถือบัตรเดิมที่จะยังได้รับสิทธิเติมเงิน 500 บาท ไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2564 โดยการกำหนดเกณฑ์ผู้ที่จะได้รับสิทธิจะพิจารณารายได้เป็นรายครัวเรือน และจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการน้อยลงกว่า 14.6 ล้านคน (น้อยลงกว่าเดิม) หากได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติโครงการต่อไป
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังเตรียมจะให้มีการทบทวนสิทธิคนที่มีบัตรสวัสดิการอยู่แล้ว และคนที่จะเข้ามาสมัครใหม่ในคราวเดียวกัน ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรสวัสดิการเหลืออยู่ 13.8 ล้านคน จากจำนวนทั้งหมด 14.6 ล้านคน ปัจจัยมาจากมีบางส่วนเสียชีวิต เฉลี่ยเดือนละ 10,000 ราย และคนถือบัตรเดิมที่มีสิทธิอยู่แล้ว หากไม่ผ่านเกณฑ์ใหม่ที่กระทรวงการคลังจะวางกรอบใหม่ที่ให้คิดจากรายได้ครัวเรือน ผู้ถือบัตรเดิมก็จะต้องคืนบัตรให้กระทรวงคลังต่อไป
ข้อมูลเดิมสำหรับการสมัครบัตรคนจน
1.ผู้สมัครต้องเป็นคนสัญชาติไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
2.ผู้สมัครที่ว่างงาน หรือมีรายได้ส่วนบุคคลต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
3.ผู้สมัครต้องไม่มีทรัพย์สินทางการเงิน เช่น เงินฝากธนาคาร, สลากออมสิน, สลาก ธ.ก.ส., พันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้
4.ผู้สมัครถ้ามีทรัพย์สินทางการเงินดังข้างต้น จะต้องมีจำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาทเท่านั้น
5.ผู้สมัครต้องนำรายได้ต่อครัวเรือนนำมาประกอบการพิจารณาด้วย
6.ผู้สมัครใดมีรถยนต์จะถูกนำมาพิจารณาประกอบ หากมีรถยนต์มากถึง 2-3 คัน ถือว่าไม่สมควรได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
7.ผู้สมัครที่มีหรือถือบัตรเครดิตอยู่ในมือ จะถูกนำมาพิจารณาประกอบ เพราะตามปกติคนที่มีบัตรเครดิตตามเงื่อนไขของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน เท่ากับว่ามีรายได้ต่อปีเกินกว่า 100,000 บาทต่อปี
โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน รับสิทธิดังนี้
1.วงเงินชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภค
วงเงินสำหรับชำระค่าสินค้าอุปโภคและบริโภค เพื่อใช้ซื้อของใช้จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิต ซึ่งจะต้องใช้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น โดยไม่สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือค่าสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อเดือน ผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท จะได้รับเงินช่วยเหลือ 200 บาทต่อเดือน
2.ค่าเดินทางรถโดยสารสาธารณะ
3.ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม
4.ส่วนลดค่าน้ำ ค่าไฟ
สำหรับผู้พิการที่ถือบัตรคนจนได้เพิ่มเบี้ยผู้พิการเพิ่ม 200 บาทต่อเดือน จากเดิมที่เคยได้รับ 800 บาทต่อเดือน ทำให้ในเดือนมกราคม 2564 จะได้รับเบี้ยผู้พิการเป็น 1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ โดยกรมบัญชีกลางได้กำหนดวันจ่ายเบี้ยความพิการเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในเดือนต่อๆ ไป ในวันที่ 22 ของเดือน มาตรการนี้มีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ถึงกันยายน 2564 .-สำนักข่าวไทย