กรุงเทพฯ 23 ธ.ค.- ปตท.ตั้งบริษัทใหม่ ลงทุนธุรกิจยาในต่างประเทศ ด้านไทยออยล์ ขายธุรกิจเรือ รับทรัพย์ 800 ล้านบาท
บมจ. ปตท. (PTT) แจ้ง ตลท.ว่า ตามที่คณะกรรมการบริษัท วันที่ 17 ก.ย. 63 ได้มีมติอนุมัติจัดตั้งบริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งถือหุ้นทั้งหมดโดยบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (บริษัทย่อยของ ปตท.) โดยบริษัท อินโนบิก แอลแอล โฮลดิ้ง จำกัด จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการลงทุนในธุรกิจยาในต่างประเทศ ตามกลยุทธ์การลงทุนใน New business ของปตท. รวมทั้งเพื่อพัฒนาศักยภาพความสามารถของ ปตท. ในด้าน Life science ด้วยทุนจดทะเบียนประมาณ 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัท อินโนบิก แอล แอล โฮลดิ้ง ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2563
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2563 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ดำเนินการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจเรือขนส่ง โดยการขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดในบริษัท ไทยออยล์ มารีน จำกัด (TM) ผู้ให้บริการเรือขนส่งน้ำมัน น้ำมันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีทางเรือ ให้กับบริษัท ภูริช มารีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM โดยทางบริษัทฯ และผู้ซื้อจะดำเนินการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นบริษัท TM ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 ธ.ค.นี้
โดยบริษัทฯ จะทำการขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดใน TM ซึ่งเป็นบริษัทย่อย (TOP ถือหุ้น 100%) ทำให้ TM สิ้นสภาพการเป็นบริษัทย่อยของไทยออลย์ ทั้งนี้ TM ถือหุ้นในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมอื่นๆ ได้แก่ บริษัท ท๊อป มารีไทม์เซอร์วิส จำกัด ,บริษัท ท็อป นอติคอล สตาร์ จำกัด ,บริษัท ที.ไอ.เอ็ม. ชิพ แมนเนจเมนท์ จำกัด ,TOP-NTL Shipping Trust และ TOP-NTL Pte. Ltd.
สำหรับราคาซื้อขายหุ้นเบื้องต้น ตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้นอยู่ที่ 346.5 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาซื้อขายหุ้นเบื้องต้นอาจมีการปรับเปลี่ยนได้โดยขึ้นอยู่กับมูลค่าของเงินสดและหนี้สินตามที่ตกลงกับผู้ซื้อ ณ วันที่การซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ โดยบริษัทฯ คาดว่าราคาซื้อขายหุ้นสุดท้ายที่บริษัทฯ จะได้รับชำระจากผู้ซื้อ (ซึ่งรวมมูลค่าเงินสดที่คาดว่าจะได้รับจากการปรับมูลค่าจากการดำเนินธุรกิจและการปรับโครงสร้างภายในของ TM) จะอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าจะดำเนินการโอนหุ้นให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิ.ย.2564
ขณะที่การปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งดังกล่าว สามารถช่วยรองรับการเติบโตและแผนกลยุทธ์ของ บริษัทฯ ในระยะยาว โดยบริษัทฯ และผู้ซื้อจะได้เข้าทำสัญญาเพื่อเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ตอบรับความต้องการใช้เรือในรูปแบบต่างๆ สำหรับการดำเนินธุรกิจในอนาคต อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทฯ สามารถจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อมุ่งพัฒนาในส่วนของธุรกิจหลักอื่นๆ ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากขึ้น / สำนักข่าวไทย