กรุงเทพฯ 22 ธ.ค. – ธปท. เผยภาพรวมลูกหนี้เดือนตุลาคมขอรับความช่วยเหลือลดลง พร้อมกำชับธนาคารพาณิชย์ดูแลลูกหนี้ใกล้ชิดเพื่อออกมาตรการช่วยเหลือแบบเฉพาะเจาะจง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 รอบใหม่ยังมีความไม่แน่นอนสูง
นางวิเรขา สันตะพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกำกับและตรวจสอบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ธปท. ได้กำชับไปยังธนาคารพาณิชย์ ในการดูแลสุขภาพของลูกหนี้อย่างใกล้ชิด หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งหากลูกหนี้ใดที่มีปัญหาการชำระหนี้สามารถติดต่อมายังธนาคารเจ้าหนี้ เพื่อหามาตรการช่วยเหลือต่อไปในลักษณะที่เฉพาะเจาะจง ไม่ใช่มาตรการแบบปูพรมหรือใช้ในวงกว้าง เนื่องจากมาตรการแบบเฉพาะเจาะจงจะสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหาได้ดีกว่า และจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวมากกว่า
ขณะที่ความคืบหน้า การช่วยเหลือลูกหนี้และการปรับโครงสร้างหนี้ พบว่าในภาพรวมลูกหนี้ที่ขอรับการช่วยเหลือในเดือนตุลาคม 2563 ลดลงเหลือ 6 ล้านล้านบาท จากเดือนกรกฎาคมที่ 7.2 ล้านล้าน โดยเมื่อครบกำหนดมาตรการการพักชำระหนี้ ลูกหนี้ช่วยใหญ่ไม่ได้ขอรับความช่วยเหลือต่อ และสามารถกับมาชำระหนี้ได้ตามปกติ ทั้งนี้การช่วยเหลือที่ผ่านมาเป็นลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ประมาณ 55% และของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 45%
สำหรับมูลหนี้ที่ธนาคารพาณิชย์ให้ความช่วยเหลือแบ่งเป็นลูกหนี้ธุรกิจ 63% มียอดหนี้รวม 2.12 ล้านล้านบาท และลูกหนี้รายย่อย 37% มียอดหนี้รวม 1.23 ล้านล้าน ซึ่งจากการประเมินพบว่า 66% ของหนี้ภาคธุรกิจสามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไข ส่วนอีก 32% ต้องปรับโครงสร้างหนี้ และอีก 2% เป็นลูกหนี้ที่ขาดการติดต่อ ด้านลูกหนี้รายย่อย พบว่า 70% สามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไข มี 29% ต้องปรับโครงสร้างหนี้หรือมีมาตรการผ่อนปรนมารองรับ และมี 1% ที่ไม่สามารถติดต่อได้ . – สำนักข่าวไทย