รฟท. ออก 7 มาตรการ ยกระดับเฝ้าระวังโควิด-19

กรุงเทพฯ 20 ธ.ค.-การรถไฟฯ ประกาศปรับการให้บริการเดินขบวนรถสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย พร้อมยกระดับมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโควิด–19 สูงสุดทั่วประเทศ


นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกับมีการประกาศล็อกดาวน์จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2563–3 มกราคม 2564 นั้น การรถไฟฯ ได้ประกาศใช้มาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สูงสุดทั่วประเทศ ทั้งในขบวนรถโดยสาร สถานีรถไฟ ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางราง

ทั้งนี้ ได้ประกาศงดให้บริการเดินรถ จำนวน 2 ขบวน คือ ขบวน 4302 เวลาออกจากสถานีมหาชัย เวลา 04.30 น. ถึงสถานีวงเวียนใหญ่ เวลา 05.23 น. และ ขบวน 4303 เวลาออกจากสถานีวงเวียนใหญ่ เวลา 05.30 น. ถึงสถานีมหาชัย เวลา 06.23 น. รวมถึงปรับการให้บริการเดินรถเส้นทางสายวงเวียนใหญ่ – มหาชัย – วงเวียนใหญ่ จำนวน 32 ขบวน โดยยังคงวิ่งให้บริการแต่ให้รับส่งผู้โดยสารได้เฉพาะ 5 สถานี ได้แก่ สถานีวงเวียนใหญ่ ตลาดพลู วัดสิงห์ รางโพธิ์ และมหาชัย ส่วนป้ายหยุดรถและที่หยุดรถให้งดบริการรับส่งทั้งหมด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.63 ถึง 3 ม.ค.64 ในส่วนของสถานีมหาชัยได้เพิ่มความเข้มข้นในมาตรการตรวจวัดอุณหภูมิคัดกรอง จัดเจลแอลกอฮอล์บริการแก่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการ พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้โดยสารในการตรวจบัตรประชาชน ลงชื่อและเบอร์ติดต่อของผู้ใช้บริการเพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรคต่อไปส่วนเส้นทางสายบ้านแหลม – แม่กลอง – บ้านแหลม จำนวน 8 ขบวน ยังคงเปิดวิ่งให้บริการตามปกติ


นอกจากนี้ ยังได้ออกมาตรการเฝ้าระวังตามสถานีและบนขบวนรถขั้นสูงสุดทั่วประเทศอีก 7 มาตรการ โดยเน้นการดูแลความสะอาดและการรักษาความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางให้กับผู้ใช้บริการ พร้อมกับขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ดังนี้

1.มาตรการคัดกรองผู้โดยสารที่สถานีรถไฟและบนขบวนรถโดยสาร ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารทุกคน หากพบว่ามีไข้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับอาการ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย ให้งดใช้บริการและแนะนำพบแพทย์ หากจำเป็นต้องเดินทางขอให้มีใบรับรองแพทย์ประกอบ พร้อมกับขอให้กรอกแบบประเมินรับรองตนเองเพื่อคัดกรองและยืนยันความปลอดภัยก่อนเดินทาง และให้ใช้แอพพลิเคชันไทยชนะเพื่อประโยชน์ในการสอบสวนโรค
นอกจากนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถทำการสังเกตอาการผู้โดยสารระหว่างเดินทาง หากมีอาการต้องสงสัยข้างต้น ให้ทำการคัดแยกผู้โดยสารพร้อมแจ้งศูนย์ความปลอดภัยการรถไฟฯโดยทันที เพื่อประสานหน่วยงานสาธารณสุขที่ใกล้เคียงก่อนถึงปลายทางตามตั๋วโดยสาร

  1. มาตรการการให้บริการบนขบวนรถ ให้พนักงานผู้ให้บริการต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือถุงมือยาง ในการบริการบนขบวนรถ และให้เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดภายในห้องโดยสาร ห้องน้ำ ห้องสุขา ระหว่างการเดินทางของผู้โดยสาร รวมถึงขอความร่วมมือผู้โดยสารสวมใส่หน้ากากอนามัย งดการพูดคุย และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลตลอดเวลาระหว่างการเดินทาง พร้อมกับกับควบคุมไม่ให้เกิดความหนาแน่นแออัดภายในสถานี และในขบวนรถ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อ
  2. มาตรการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่สถานีรถไฟ ให้ทำความสะอาดบริเวณพื้นผิวจุดสัมผัสในบริเวณสถานที่จำหน่ายตั๋วโดยสาร ที่พักผู้โดยสาร สถานที่ให้บริการ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอทุก 2 ชั่วโมง และเพิ่มความถี่มากขึ้นในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารหนาแน่น ให้ทำความสะอาดรอบใหญ่ หรือ Big Cleaning และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณอาคารสถานีชานชาลา ที่พักผู้โดยสาร ห้องสุขา ทุก 3 วัน รวมถึงทำความสะอาดอุปกรณ์ที่มีผู้โดยสารใช้ร่วมกัน ทุก 1 ชั่วโมง เช่น ปุ่มกดตู้จำหน่ายเครื่องดื่ม มือจับ ลูกบิด ปุ่มกดปิด-เปิดประตู เป็นต้น
  3. มาตรการจัดเตรียมขบวนรถและทำความสะอาดภายในขบวนรถ โดยให้ทำความสะอาดขบวนรถโดยสารทุกเที่ยวที่ให้บริการ เช็ดทำความสะอาดพื้นผิวที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อย ๆ เช่น ราวบันได ที่จับบริเวณประตู ราวจับในรถโดยสาร เบาะที่นั่ง ที่นอน พนักพิง ที่เท้าแขน ด้วยน้ำยาทำความสะอาด รวมถึงฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในบริเวณตู้โดยสาร ห้องน้ำ ห้องสุขา ทุกเที่ยวที่ทำขบวนออกจากสถานีต้นทาง
  4. มาตรการรับส่งห่อวัตถุและสัมภาระ ให้มีการตรวจสอบความสะอาดของห่อวัตถุและสัมภาระ เช่น ความชื้น คราบน้ำ หรือสิ่งสกปรก รูปแบบกล่องและวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เป็นต้น โดยหลีกเลี่ยงการส่งห่อวัตถุและสัมภาระที่มีความเสี่ยง ควบคู่ไปกับทำความสะอาดบริเวณที่จัดเก็บห่อวัตถุและสัมภาระทุก ๆ วัน และเพิ่มความถี่มากขึ้นในช่วงที่มีห่อวัตถุและสัมภาระจำนวนมาก
  5. มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยของพนักงานสถานีและบนขบวนรถ ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง หรืออุปกรณ์ป้องกันอื่น ๆ ในขณะทำงาน และหลังจากปฏิบัติหน้าที่ต้องล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลล้างมือทุกครั้ง พร้อมกับเผยแพร่ความรู้ให้พนักงานเรื่องข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับเชื้อไวรัส เช่น การติดต่อ อาการ คำแนะนำในการป้องกันตนเอง และให้ทำการตรวจสุขภาพ หากปรากฏว่ามีอาการต้องสงสัยตามความเห็นแพทย์ ให้หยุดการทำงานเพื่อรักษาตัวจนกว่าจะหายเป็นปกติ
  6. ห้ามมิให้แรงงานต่างด้าวใช้บริการในเส้นทางวงเวียนใหญ่ – มหาชัย เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งของจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 3481/2563 เรื่อง ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) (ฉบับที่ 21)

การรถไฟฯ ขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกหน่วยให้ปฏิบัติตามประกาศมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ขั้นสูงสุด เพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารให้ถูกสุขลักษณะและเกิดความสะอาด ปลอดภัยสูงสุด พร้อมแนะนำให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการรับและแพร่เชื้อในช่วงที่มีการระบาด และหากพบเห็นผู้โดยสารที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบในบริเวณสถานีรถไฟ หรือบนขบวนรถ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ประจำสถานี หรือ ศูนย์ปลอดภัยของการรถไฟฯ โทรศัพท์ 02-5379198 ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะพิจารณาปรับแผนการเดินรถให้สอดคล้องกับแนวทางคำสั่งของรัฐที่จะมีในอนาคตเพื่อความปลอดภัยของส่วนรวมต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]