เรียกร้องทบทวนร่างกฎหมายสหกรณ์ใหม่

กรุงเทพฯ  9 ธ.ค. – สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย​ ขบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์​ และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนทำหนังสือ​ถึง รมช.เกษตรฯ ​ทบทวน​ร่างกฎกระทรวง​ 12 ฉบับ​ ระบุ​เป็น​อุปสรรค​ต่อ​การ​ดำเนิน​งานของ​สหกรณ์​ มั่นใจ​ยัง​สามารถ​ปรับ​แก้​ให้​เหมาะสม


นายปรเมศวร์​ อินทรชุมนุม​ ประธานสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) กล่าวว่า ​สหกรณ์ทั่วประเทศ​เห็นว่าการทำงานของคณะทำงานในการร่างกฎกระทรวงเกษ​ตร​และ​สหกรณ์​ 12 ฉบับ​ตาม พ.ร.บ.​สหกรณ์​ซึ่ง​ออกมาเพื่อกำกับ​การดำเนินงานของ​สหกรณ์​นั้น ​ไม่มีคนของขบวนการสหกรณ์ร่วมแสดงความคิดเห็น หรือชี้แจงถึงผลกระทบจากการร่างกฎกระทรวง

ทั้งนี้ การออกกฎบังคับใด ๆ ควรสอบถามความคิดเห็นจากผู้ปฏิบัติงาน และควรมีคนของขบวนการสหกรณ์ ซึ่งมีความสามารถและศักยภาพเพียงพอเข้าไปร่วมขับเคลื่อนการร่างกฎกระทรวง เพื่อให้ทุกฝ่ายพึงพอใจกับกฎกระทรวงดังกล่าวมากกว่ามาบีบบังคับให้สหกรณ์ต้องปฏิบัติตามร่างกฎกระทรวงที่ภาคสหกรณ์ไม่ได้กำหนด


ล่าสุด​ทำหนังสือ​ถึง​นางสาวมนัญญา​ ไทย​เศรษฐ์​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​เกษตร​และสหกรณ์ ​ทบทวน​การขับเคลื่อนร่างกฎกระทรวงตามมาตรา 89/2 แห่ง พ.ร.บ.สหกรณ์ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2562 สิ่งที่เป็นห่วง คือผลประกอบการและการดำเนินงาน ซึ่งไม่สามารถดำเนินงานต่อไปได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาและอุปสรรคที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการดำเนินงานของขบวนการสหกรณ์ในอนาคตและเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสหกรณ์ในฐานะผู้ปฏิบัติและผู้แบกรับภาระของสหกรณ์ไว้ ซึ่งไม่อาจจะนิ่งเฉยต่อไปได้อีก

ผู้แทนสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนกว่า 500 คน นำโดยสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย  ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด  ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัด  และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ 7 วิชาชีพจะรวมตัวกันที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแสดงออกและยื่นข้อเรียกร้อง​ต่อนางสาวมนัญญา เพื่อขอรับทราบเนื้อหาของร่างกฎกระทรวง 7 ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาเสร็จแล้ว​ ขอให้ชะลอการพิจารณาร่างของ​กฎกระทรวงอีก​ 5 ฉบับที่อยู่​ระหว่าง​การพิจารณา​ของสำนัก​คณะกรรมการ​กฤษฎีกา​ไว้

จากนั้น​ตั้งคณะทำงานร่วมจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องและผู้แทนขบวนการสหกรณ์ เพื่อพิจารณาปรับปรุงในประเด็นที่ยังเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน​ ขอให้ผู้แทนขบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนเข้าร่วมชี้แจงในประเด็นที่ยังเป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ในชั้นตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไปด้วย


“หากกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังคงเพิกเฉยต่อข้อเสนอแนะหรือข้อเรียกร้อง สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พร้อมที่จะยกระดับการเรียกร้องต่อไป” นายปรเมศวร์​ กล่าว

สำหรับกฎกระทรวงทั้ง 12 ฉบับดังกล่าว แม้จะผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแล้ว แต่กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงการคลัง และ ธปท.มิได้ให้ความสำคัญต่อความคิดเห็นของขบวนการสหกรณ์และไม่หยิบยกมาพิจารณาปรับปรุงร่างกฎกระทรวง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรืออุปสรรคต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ ยังคงยึดเอาความเห็นของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งไม่เข้าใจระบบสหกรณ์และไม่มีหน้าที่รับผิดชอบหรือช่วยเหลือสหกรณ์เป็น​สำคัญ​

ทั้งนี้​ กฎกระทรวง 5 ฉบับหลังยังมีประเด็นสำคัญหลักที่สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนไม่เห็นด้วยและจะเป็นอุปสรรคต่อการบริหารงานสหกรณ์หรือส่งผลกระทบต่อสมาชิกสหกรณ์ ดังนี้

1.เงินกู้สามัญของสมาชิกต้องชำระคืนให้เสร็จภายใน 150 งวด (12.5 ปี) ซึ่งสหกรณ์เห็นว่าควรกำหนดเป็นไม่เกิน 180 งวด (15 ปี) จะเหมาะสมและผ่อนคลายแก่สมาชิกมากกว่า

2.สมาชิกผู้กู้ต้องมีเงินได้รายเดือนหลังหักชำระหนี้ คงเหลือสุทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ตลอดอายุสัญญา ซึ่งสหกรณ์เห็นว่าเงินได้รายเดือนคงเหลือสุทธิควรยึดโยงกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ

3.สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนใช้เกณฑ์เดียวกับสหกรณ์ออมทรัพย์ในการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ทั้งที่บริบทของสมาชิกและการชำระหนี้ของสหกรณ์สองประเภทนี้แตกต่างกัน ซึ่งสหกรณ์เห็นว่าควรใช้เกณฑ์เดียวกับสหกรณ์การเกษตร จะเหมาะสมมากกว่า

4.การไม่นำมูลค่าหุ้นของสมาชิกผู้กู้มาหักออกจากหนี้เงินต้นคงเหลือก่อนประมาณการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งขบวนการสหกรณ์มีความเห็นว่า ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ เป็นการประมาณการความเสี่ยงที่จะเกิดหนี้สูญ ดังนั้น จึงควรนำมูลค่าหุ้นมาหัก (ซึ่งสหกรณ์มีบุริมสิทธิพิเศษตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์) เพื่อลดยอดหนี้ (ยอดความเสี่ยง) คงเหลือก่อนประมาณการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญได้ เพราะไม่ได้หักหนี้กันจริง ๆ ที่ต้องมาพิจารณาว่าหุ้นเป็นทรัพย์สินของสมาชิกหรือเป็นทุนของสหกรณ์

5.การทยอยประมาณการค่าเผื่อการปรับมูลค่าที่ดินแทนการชำระหนี้รอขายไว้ในอัตราร้อยละ 10 ต่อปี จนกว่าที่ดินแทนการชำระหนี้จะมีมูลค่าร้อยละ 50 ซึ่งสหกรณ์เห็นว่าควรตัดออก เพราะเมื่อกำหนดให้ตีราคาชำระหนี้ตามราคาประเมินของทางราชการหรือร้อยละ 70 ของราคาประเมินจากผู้ประเมินรับอนุญาตแล้ว ก็ไม่ควรประมาณการค่าเผื่อดังกล่าว อีกทั้งที่ดินมีแต่จะปรับเพิ่มมูลค่า​.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

สงกรานต์เชียงใหม่คึกคัก ไม่หวั่นอากาศร้อน

เล่นน้ำสงกรานต์วันแรกที่ จ.เชียงใหม่ ยิ่งร้อนยิ่งคึกคัก โดยเฉพาะรอบคูเมือง และลานประตูท่าแพ แหล่งรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน

เคลื่อนย้ายชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ส่งตรวจดีเอ็นเอ

เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ส่งตรวจเทียบเคียงดีเอ็นเอญาติ เพื่อพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์บุคคล

เร่งค้นหาผู้ประสบภัยตึกถล่ม ยังไม่พบผู้ติดค้างโซนบี

เร่งค้นหาผู้ประสบภัยตึกถล่มต่อเนื่อง ยังไม่พบผู้ติดค้างเพิ่มเติมที่โซนบี หลังพบแสงไฟ ขณะที่ DSI เชิญบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เข้าสังเกตการณ์การเก็บหลักฐานเพิ่ม

คนแห่เดินทางฉลองสงกรานต์ ระบบขนส่งคึกคัก

ประชาชนแห่เดินทางฉลองสงกรานต์ ระบบขนส่งสาธารณะผู้โดยสารคึกคัก ขณะที่ถนนมิตรภาพรถหนาแน่น เคลื่อนตัวช้า แม้จะเปิดมอเตอร์เวย์ M6